พอล ภัทรพล เผยแนวโน้มของโลก จะเป็นอย่างไร หลังจบวิกฤต
advertisement
พอล ภัทรพล อดีตนักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็นในอนาคต หากต้องจบวิกฤต ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ''เรายังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ แต่ที่คนกังวลคือหลังจบแล้วโลกจะเป็นยังไง ตนมองว่าจะเกิด New Normal ความปกติในรูปแบบใหม่ มีทั้งผลดีและไม่ดี คือ''
advertisement
1.Deglobalization จะลดความโลกาภิวัฒน์ สวนกระแส เพราะธุรกิจวุ่นวาย แต่ละประเทศชัตดาวน์ บริษัทจะเริ่มคิด ต้องใช้ของในประเทศ พึ่งพาตลาดส่งออกไม่ได้ ก็ต้องมาพัฒนาตลาดในประเทศ แต่ยังไงความโลกาภิวัฒน์ก็ต้องยังมี
2.สังคมเข้าสู่ระบบ digital เต็มรูปแบบมากขึ้น
3.คนจะดูแลสุขภาพมากขึ้น [ads]
4.คนจะหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
5.work from home บางองค์กร อาจจะยึดแบบนี้ไปเลย จากเดิมเข้าออฟฟิศ 15 วัน อาจจะเหลือแค่ 2 วัน เข้ามาเจอหน้ากัน ขอให้ผลการทำงานดี ตรงเป้า kpi เช่นยอดขายไม่ตก ทุกอย่างทำได้ แล้วให้เข้าออฟฟิศอาทิตย์ละครั้ง
advertisement
มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลย เราไม่จำเป็นต้องหาคอนโดกลางเมืองใกล้ออฟฟิศ แต่หาบ้านชานเมืองก็ได้ เพราะแค่มีเน็ตดีๆ และคอมพิวเตอร์ก็ทำงานได้แล้ว กระทบอสังหาฯ เรื่องรถยนต์ต้องมีไหม รถยอดตก กระทบไปหลายต่อไหม
ต่อไปทุกองค์กรต้องพยายามทำให้ตัวเอง lean ที่สุด เพราะเห็นตัวอย่าง เจอวิกฤตโควิดแล้วชะงัก องค์กรจะใช้คนน้อยลง คนจะตกงานไหม บริษัทไม่ต้องการพื้นที่ใหญ่ๆ แค่มีห้องเล็กๆ ไว้เจอกันอาทิตย์ละครั้ง โลกจะเป็นนิวนอร์มอลไปหมด
advertisement
ต่อให้ทุกกิจการกลับมาฟื้นฟูได้ เช่นร้านนวดกลับมาแล้วคนจะมาใช้บริการมากเท่าเดิมไหม โรงหนัง เครื่องบิน ร้านอาหาร คนจะใช้บริการน้อยลงไหม เหล่านี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไร เราต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ในอนาคตข้างหน้าเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะทางสังคม ยังไงก็ไม่อยากให้ทุกคนประมาทในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการเงิน ต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนจะใช้ทุกบาททุกสตางค์นะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : Paul Pattarapon พอล ภัทรพล , khaosod.co.th