แบบนี้เอง!? จะพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบิน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? มา่ดูกัน

     มีความจำเป็นหลายๆ อย่างที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกน้อยวัยแบเบาะ เดินทางโดยเครื่องบินนะคะ ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนแอบกังวลใจอยู่เล็กๆ ว่าจะต้องพบเจอกับความยุ่งยากและไม่สะดวกสบายมากมายแค่ไหน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต้องพบเจอกับบรรยากาศบนเครื่องบิน ที่มีคนนั่งรวมกันเยอะๆ ข้อปฏิบัติบนเครื่อง รวมทั้งต้องเดินไปมาอีกด้วย ดังนั้นวันนี้ Kaijeaw.com จึงมีวิธีการเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบิน มาฝากกันค่ะ

วิธีเตรียมตัวก่อนพาลูกขึ้นเครื่องบิน
    1. พาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง หากแพทย์ลงความเห็นว่ามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี พร้อมที่จะเดินทาง คุณก็สามารถพาลูกน้อยของคุณเดินทางได้ อย่างหายห่วงค่ะ
    2. เตรียมเอกสารการเดินทาง เป็นต้นสำเนาสูติบัตร หากว่าต้องเดินทางต่างประเทศก็ต้องพาลูกไปทำหนังสือเดินทางเช่นเดียวกับผู้ใหญ่
    3. สามารถเตรียมเบาะนั่งสำหรับเด็กในรถขึ้นเครื่องได้ โดยผู้ปกครองอาจจะต้องจองที่นั่งสำหรับเด็กไว้ก่อน [ads]
    4. เตรียมเขียนชื่อลูก ชื่อผู้ปกครอง ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ทั้งที่บ้านและจุดหมายปลายทางติดไว้ที่ตัวเด็ก เช่น ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรือห้อยคอในกรณีพลัดหลง อย่าใส่เครื่องประดับที่มีค่าให้ลูก เช่น สร้อยคอ หรือสร้อยข้อมือ 
    5. จองไฟลท์ให้ตรงกับช่วงเวลานอน ถ้าไม่อยากให้ลูกส่งเสียงร้องไห้ หรือซนวุ่นวายบนเครื่องบิน ตัดปัญหาด้วยการจองไฟลท์บินให้ช่วงเวลาตรงกับเวลานอนจะดีกว่าค่ะ ซึ่งถ้าเป็นไฟลท์บินยาวๆ ก็อาจจะเลือกช่วงกลางคืนไปเลย วิธีนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยน้อยลงได้
    6. เลือกที่นั่งให้เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกที่นั่งตั้งแต่ตอนจองตั๋วเลยค่ะ โดยให้เลือกที่นั่งส่วนด้านหลังของเครื่องบิน จะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นมากเกินไป และควรเลือกที่นั่งแถวหน้า เพื่อจะได้ใช้พื้นที่ในการเดินหรือขยับตัว หรือลุกขึ้นไปเปลี่ยนผ้าอ้อมแบบสะดวกๆ หรือทำธุระอย่างอื่นได้ง่าย โดยปกติพนักงานจะเลือกที่นั่งที่เหมาะให้แล้ว ซึ่งคุณก็สามารถบอกความต้องการเพิ่มเติมได้
    7. จัดกระเป๋าให้เบาที่สุด เตรียมของไปให้ครบแต่ต้องให้น้ำหนักเบาที่สุด แนะนำให้ใช้กระเป๋าสะพายหลังหรือกระเป๋าสะพายข้างติดตัว เป็นกระเป๋าที่นำขึ้นเครื่องไปด้วย มือคุณจะได้ว่างทั้งสองมือเพื่อคอยจับมือลูกคุณไว้ได้ตลอด สามารถหยิบ ของจากกระเป๋า และหยิบพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินให้เจ้าหน้าที่ได้สะดวก
    8. แจ้งรถเข็นเด็กกับสายการบิน โดยปกติแล้วทางสายการบินจะมีบริการเก็บรถเข็นเด็กให้ โดยที่เราไม่ต้องโหลดรวมสัมภาระเก็บใต้ท้องเครื่อง เพราะการใช้อุปกรณ์นี้ระหว่างเดินไปขึ้นเครื่องบิน จะช่วยลดความวุ่นวายและความเหนื่อยในการดูแลลูกน้อยลงได้เป็นกอง ดังนั้นก็อย่าลืมแจ้งกับพนักงานของสายการบินก่อนด้วยนะคะ จะได้มีคนดูแลคอยนำไปเก็บให้ก่อนขึ้นเครื่องบินให้ค่ะ [ads]
    9.เตรียมเป้อุ้มเด็ก หากทริปไหนที่ดูแล้วว่าไม่สะดวกกับการต้องเข็นรถเข็นเด็กระหว่างทางไปขึ้นเครื่องบิน เพราะต้องถือของมากมายเยอะแยะไปหมด การเตรียมเป้อุ้มเด็กจะช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะเลยทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าลูกของคุณจะเดินได้แล้ว แต่ก็ควรใช้อุปกรณ์นี้เพื่อลดความวุ่นวายระหว่างการเดินไปขึ้นเครื่องบิน
    10. พกหมอนแบบพกพา การนำหมอนขึ้นเครื่องมาด้วยมีประโยชน์มาก สามารถใช้สำหรับรองนั่งให้สูงขึ้น เพื่อให้ลูกได้มองเห็นวิวนอกหน้าต่างเครื่องบินได้ เวลาลูกเหนื่อยใช้พิงได้การพักผ่อน ยิ่งหากว่าลูกนอนหลับก็จะใช้หนุนนอนสบายๆ ได้อีกด้วย 
    11. เตรียมของเล่นสนุกๆ ไว้ให้พร้อม ของเล่นสนุกๆ จะช่วยให้ลูกงอแงน้อยลง กลับเพลินเพลินกับของเล่นมากกว่า อาจจะเป็นของเล่นชิ้นโปรดที่เขาชอบ หรือเตรียมสมุดระบายสี สมุดติดสติกเกอร์ หรืออะไรก็ได้ที่เขาชอบขึ้นเครื่องมาด้วย และถ้าหากอยากให้ลูกตื่นเต้นและมีความสุขกับทริปนี้มากขึ้น ลองเซอร์ไพร์สด้วยของเล่นใหม่ที่ยังไม่ได้แกะกล่องก็จะดียิ่งขึ้น
    12. เตรียมขนมที่ลูกชอบ เมื่อไรที่ลูกรักเริ่มงอแงหรือเริ่มดื้อไม่อยากนั่งอยู่กับที่ คุณสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการยื่นกล่องขนมที่รวมของโปรดของเขาให้กินได้เลย ได้ผลดีเกินคาดเลยทีเดียวค่ะ

     คราวนี้ก็หมดนานาปัญหาที่ลูกน้อยของคุณจะป่วน และก่อกวนคุณพ่อคุณแม่และผู้โดยสารคนอื่นๆ แล้วนะคะ แค่เพียงเตรียมตัวให้พร้อมอย่างที่เราได้แนะนำกันทั้ง 12 ข้อนี้ รับรองว่าต่อไปคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเดินทางขึ้นเครื่องบินกับลูกน้อยได้อย่างราบรื่น สบายใจได้แล้วล่ะค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com