รถยนต์ยางระเบิด กลางถนน..รับมืออย่างไร?
advertisement
รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่เรียกได้ว่าคู่กายคู่ใจของผู้ขับขี่ เพราะบางคนถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ ขาดไม่ได้เลย ต้องเดินทางไปมาตลอด แต่ยิ่งเราใช้รถใช้ถนนมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้ อันเกิดจากหลายสาเหตุ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความประมาท ซึ่งหากไม่เกิดขึ้นเพราะตัวเราเอง ก็อาจเป็นเพราะคนอื่น โดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ และบางครั้งมันก็อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งาน อย่างเรื่องของยางระเบิด ที่วันนี้ Kaijeaw.com จะหยิบมาพูดถึง หากเกิดขึ้นแล้ว จะรับมืออย่างไร
advertisement
สาเหตุของยางระเบิดหรือยางแตก มีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น
– ยางหมดสภาพการใช้งาน หมดอายุ มีอาการบวม รอยปริแตก ฉีกขาด เป็นต้น
– มีการบรรทุกของน้ำหนักเกินกำหนด
– ขับรถโดยใช้ความเร็วเกิดพิกัดยาง
– สูบลมยางไม่ถูกต้อง เช่น เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แต่ยังใช้จุ๊บเติมลมอันเก่า แรงเสียดทาน หรือหลุมบ่อที่อยู่บนท้องถนน
– ลมยางล้อมีแรงดันอ่อน เมื่อยางอ่อนรูปร่างของยางจะผิดเพี้ยนไป ไม่กลมอย่างที่ควรจะเป็น
– เลือกใช้ยางรถยนต์ไม่ถูกขนาด เช่น นำยางรถเก๋งมาใส่รถปิคอัพ เป็นต้น
– หลุม บ่อ ถนนพัง ที่มีอยู่ทั่วไปบนท้องถนน
– ไม่ได้ดูแล ตรวจสภาพยางรถยนต์ จนยางเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งานก่อนเวลาอันควร [ads]
advertisement
สัญญาณเตือนก่อนยางแตก
สังเกตได้ว่า ขณะขับรถอยู่นั้น รถเกิดอาการสั่นสะเทือน พวงมาลัยมีอาการสั่นผิดปกติ บังคับรถยากขึ้นโดยเฉพาะขณะเลี้ยวรถ หรือขับเข้าโค้ง ทั้งๆ ที่รถไม่ได้มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าก็ปกติดี ไม่มีส่วนใดของรถที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ หากรถของคุณมีลักษณะดังกล่าว ให้ชะลอความเร็วแล้วหาที่ปลอดภัยจอดรถ เพื่อตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ทันที เพราะอาการเช่นนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ยางรถของคุณเริ่มบวมและพร้อมที่จะระเบิดแล้ว
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดยางแตก
1. ตั้งสติ
เมื่อเกิดเสียงยางระเบิดดังขึ้น แน่นอนละว่าคุณต้องตกใจ ให้ควบคุมสติของตนเองกลับมาให้เร็วที่สุด อย่าตื่นตกใจเกินไป เพราะหากคุณควบคุมสติได้ดี เปอร์เซ็นต์ความปลอดภัยก็จะมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น
2. จับพวงมาลัยให้มั่นทั้งสองมือ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดขึ้น อย่าตกใจจนหักพวงมาลัยกะทันหัน โดยมากแล้วยางระเบิดจะทำให้รถส่าย จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับแรงระเบิดและความเร็วของรถ เพราะฉะนั้นพยายามจับพวงมาลัยให้มั่นทั้งสองมือ เพื่อประคองรถให้กลับมาอยู่ในเลน เพราะรถอาจเกิดอาการส่ายไปมาจากแรงระเบิด บวกกับความเร็วที่ใช้อยู่ในขณะนั้น
advertisement
3. เปิดไฟฉุกเฉิน
มองดูกระจกหลังว่ามีรถตามมาหรือไม่ และเปิดไฟฉุกเฉิน (ห้ามดึงเบรกมือเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถหมุนกลางถนน)[ads2]
4. หยุดรถ
คุมทิศทางด้วยการผ่อนคันเร่งแล้วเลียเบรค เมื่อควบคุมทิศทางของรถได้แล้ว ก็ค่อยๆ ผ่อนคันเร่งแล้วแตะเบรคเบาๆ เมื่อความเร็วลดลง เพื่อประคองรถให้เข้าไหล่ทางด้านซ้าย ถ้าอยู่เลนกลางหรือเลนขวา ให้เปิดไฟฉุกเฉินขอทางเข้าเลนซ้าย อย่าคิดแต่จะเข้าข้างทางอย่างเดียวแล้วพุ่งพรวดไปเลย เพราะนั่นอาจทำให้เกิด อุบัติเหตุซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปอีกก็เป็นได้
ข้อควรระวัง ห้ามใช้เบรคมือ การใช้เบรคมือหรือครัชทันทีหลังยางระเบิดทำให้รถมีโอกาสหมุนคว้างได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรดึงเบรคมือทันทีเป็นอันขาดแม้จะควบคุมรถได้แล้วก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือ เลียเบรคไปเรื่อยๆ จนความเร็วรถชลอลงหรือหยุดลงในที่สุด กรณีรถเกียร์ธรรมดาที่จำเป็นต้องใช้ครัช ก็ควรใช้ต่อเมื่อรถใกล้จอดแล้วเท่านั้น
5. จอดบริเวณที่ปลอดภัย
เมื่อสามารถควบคุมรถได้แล้ว ให้จอดบริเวณที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทางที่กว้างพอ เพื่อไม่ให้รถที่ขับมาจากด้านหลังเฉี่ยว ชน ฯลฯ
แม้ว่าอุบัติเหตุยางแตกนั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด หากเกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและการสูญเสียมากมาย แต่เราสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง ด้วยการหมั่นดูแลการใช้งานของรถให้อยู่ในสภาพการใช้งานปกติ และไม่ควรขับรถเร็วเกินไป เพราะหากขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูงมากๆ ก็ยากแก่การควบคุมรถได้
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com