ยาย้อมผม ใช้บ่อย อันตราย
advertisement
เทรนด์สีผมเปลี่ยนกันอยู่บ่อนๆ สาวๆ ก็มักจะตามเทรนด์กันไม่ได้ขาดเลยใช่มั้ยคะ บางคนเปลี่ยนสีผมกันทุกเดือนเลยทีเดียว แม้จะสวยงามแต่ว่า ก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อสุขภาพผม รวมถึงสุขภาพร่างกายด้วยเลย ทั้งยังส่งผลเสียด้วยซ้ำ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สำหรับย้อมสีผมจำหน่ายหลายประเภท เป็นที่มิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย การใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ไม่น้อย ใครที่ชอบย้อมผม ต้องระวังให้มากขึ้นแล้วนะคะ
นายแพทย์สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์สาขาอายุรกรรม แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 กล่าวว่า การทำสีผมบ่อยๆ นั้นอาจทำให้เส้นผมผ่านสารเคมีมีผลทำให้ไม่แข็งแรงหลุดร่วงได้ง่าย และยังทำให้เกิดอันตรายต่อใบหน้าหรือระคายเคืองต่อหนังศีรษะส่งผลให้ผิวหนังเป็นแผลได้ รวมทั้งก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้โรคหนังศีรษะแห้งและที่สำคัญอาจทำให้เป็นโรคมะเร็งหนังศีรษะได้
advertisement
ในน้ำยาย้อมผมนั้น ประกอบด้วยสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง 5 ตัวหลักๆ ด้วยกัน เช่น
1) สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ ซึ่งเป็นสารฟอกสีผมและฆ่าเชื้อโรค จึงมีฤทธิ์ในการทำลายเส้นผมกัดสีผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบและระคายเคืองต่อหนังศีรษะ ตลอดจนทำให้เส้นผมแห้งเสียได้
2) สารฟีนิลินไดอะมี หรือสีย้อมผมชนิดถาวรนั้นเป็นสารเคมีอันตราย เมื่อดูดซึมเข้าสู่หนังศีรษะแล้ว อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง และหากสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้
3) แอมโมเนีย ซึ่งเป็นตัวช่วยให้สีย้อมผมติดผมนั้น ขณะเดียวกันสารดังกล่าวยังมีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง ที่สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะได้ จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเสียผมร่วง และทำให้รากผมอ่อนแอลง
4) สารซิลเวอร์ไนเตรต ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการปกปิดผมขาว โดยตัวสารนี้เมื่ออยู่บนหนังศีรษะ จะทำปฏิกิริยากับอากาศแล้วเปลี่ยนให้เส้นผมกลายเป็นสีดำ ซึ่งสารตัวดังกล่าวมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดการระคาย หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้
5) เลดอะซีเตด ซึ่งเป็นสารตะกั่วที่ใช้ในครีมปกปิดผมขาว ชนิดที่ไม่ต้องล้างออก เช่นเดียวกับสารซิลเวอร์ไนเตรต และเนื่องจากสารตะกั่วนี้มีคุณสมบัติคล้ายกับสารตะกั่วที่ผสมในน้ำมันในอดีต ดังนั้นหากสะสมในร่างกาย อาจทำลายสมองและประสาทสัมผัสได้ ที่สำคัญสารนี้ยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน
advertisement
อันตรายจากการยืดผมและดัดผม
ไม่ใช่เพียงแค่ยาย้อมสีผมเท่านั้นนะคะ ที่เป็นอันตราย นอกจากนั้นแล้วสารเคมีที่ประกอบอยู่ในน้ำยายืดผมและดัดผมนั้น สามารถก่อให้เกิดอันตรายกับหนังศีรษะได้เช่นเดียวกันกับน้ำยาย้อมสีผม เพราะส่วนผสมที่ใช้นั้นจะคล้ายคลึงกัน ประกอบกับการดัดหรือยืดผมนั้นต้องใช้ความร้อนร่วมอีกด้วย ส่งผลให้เส้นผมยิ่งอ่อนแอและเปราะบางลงได้ เช่นเดียวกับการทำสีผมนั่นเอง
อันตรายจากยาย้อมสีผมชนิดโฟม
ในปัจจุบันมียาย้อมสีผมหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ อย่างเช่น ยาย้อมสีผมที่มีลักษณะเป็นโฟม แพทย์ก็ลงความเห็นว่าสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อหนังศีรษะได้เช่นกัน แต่อันตรายน้อยกว่าเพราะชนิดน้ำเพราะ มีส่วนประกอบของสารเคมีน้อยกว่าน้ำยาย้อมสีผมที่อยู่ในรูปแบบน้ำ และขั้นตอนในการหมักผมนั้นใช้เวลาน้อยกว่ายาย้อมสีผมรูปแบบเดิมๆ ดังนั้น จึงทำเส้นผมผ่านสารเคมีน้อยลง จึงทำให้โอกาสเกิดสารตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ น้อยลงกว่ายา ย้อมสีผมที่อยู่ในรูปของน้ำ [ads]
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำสีผมจากแพทย์
1. เลือกน้ำยาย้อมสีผมที่ไม่มีอันตรายรุนแรงเช่น ไม่มีส่วนผสมของเกลือ หรือสารเคมีที่อันตรายอย่างสารตะกั่ว และปรอทเป็นส่วนประกอบหลัก
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากได้รับการอนุญาตจาก อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) หรือควรเลือกซื้อตามร้านจำหน่ายที่สะอาดและปลอดภัยไว้ใจได้
3. ไม่ควรย้อมสีผมบ่อยเกินปีละ 9 ครั้ง เพราะมีการวิจัยแล้วว่าอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
4. ห้ามใช้ในกลุ่มของผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้ที่เป็นมะเร็งอยู่แล้ว
5. ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรทดสอบการแพ้ก่อนในเบื้องต้นและควรอ่านฉลากและวิธีการใช้งาน ข้อควรระวัง ให้เข้าใจอย่างที่ถ้วน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
advertisement
เคล็ดลับการดูแลเส้นผมที่ผ่านการย้อมสี
วันนี้ Kaijeaw.com ก็มีเคล็ดลับในการดูแลเส้นผมที่ผ่านการย้อมสี มาฝากสาวๆ กันด้วยค่ะเพื่อจะได้มีเส้นผมที่สวย คงสีสันเงางามได้ยาวนานขึ้น จะได้ไม่ต้องย้อมสีผมกันบ่อยๆ ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพกันค่ะ มีวิธีการดังนี้
1. หมั่นเล็มปลายผมที่แห้งแตกปลาย เพราะเส้นผมที่ทำสีแล้วก็มักมีความแห้งหยาบกระด้าง เนื่องจากสารเคมีต่างๆ ได้ชะล้างเอาความชุ่มชื้นไปจากผมของเราแล้วนั่นเอง จึงส่งผลให้สภาพปลายผมยิ่งมีความแห้งมากเป็นพิเศษ ขั้นตอนแรกสาวๆ ควรหมั่นเล็มปลายผมที่แห้งแตกปลายเหล่านั้นออกก่อน จึงบำรุงผมในขั้นตอนต่อไปได้
2. ปกป้องผมจากความร้อน ผมที่ทำสี จะมีความแห้งหยาบกระด้างอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงจากการใช้ความร้อนกับเส้นผม เพราะยิ่งจะทำให้ผมแห้งหยาบกระด้างเข้าไปอีก
advertisement
3. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เช่น แชมพูสระผมและครีมนวดนั้น ควรเลือกประเภทสำหรับคนทำสีผมเท่านั้น เพราะมันจะช่วยชะล้างและทำความสะอาดพร้อมช่วยถนอมสีผมของสาวๆ ให้คงไว้เนิ่นนานตลอดไป
4. ครีมนวดผมสูตรเข้มข้น หลังจากการสระผมทุกครั้งควรเลือกใช้ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นที่เหมาะสำหรับการทำสีผมโดยเฉพาะ เพราะการใช้ครีมนวดผมธรรมดาๆ นั้นทำให้แค่ผมของเรานุ่มลื่นแต่เพียงภายนอกเท่านั้น
5. ทรีทเมนต์ผม เป็นประจำ หมั่นหาเวลาทรีทเมนต์ผม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเมนต์เส้นผมหรือใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้รอบตัว เพื่อนำมาหมักทรีทเมนต์ก็ได้เช่นเดียวกัน
6. ทานอาหารบำรุงเส้นผม อาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมนั้นได้มาจากอาหารทั้งห้าหมวดหมู่ และควรเน้นทานจำพวกผักผลไม้ เพื่อเติมเต็มวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญต่อเส้นผม ที่สำคัญอย่าลืมทานอาหารทะเลอย่างปลาชนิดต่างๆ ด้วย เพราะมีธาตุสังกะสีที่ช่วยบำรุงรากผมและสภาพเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น
เพียงเท่านี้เส้นผมของคุณที่แห้ง ก็จะกลับมามีน้ำหนักคงความเงางามและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างไม่ยากเลยค่ะ แม้ว่ายาย้อมสีผม จะเป็นประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงสีผม หรือปกปิดผมขาว แต่ถ้าหากใช้บ่อยๆ ก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้นจึงควรทำสีผมให้น้อยที่สุด ทำเท่าที่จำเป็น เปลี่ยนสีผมได้ 6 เดือนต่อหนึ่งครั้ง เพราะจะส่งผลดีต่อสุขภาเส้นผม และที่สำคัญควรดูแลเส้นผมไปพร้อมๆ กับการบำรุงด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเส้นผมอยู่คู่กับเราไปนานๆ ค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com