รับมือกับสารพัดปัญหาเล็บ
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-3-1.jpg)
advertisement
เรื่องของเล็บมือและเล็บเท้านั้นสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นใดในร่างกายเลยนะคะ ดังนั้นความผิดปกติใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเล็บก็เป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเล็บฉีก เล็บขบ เกิดการอักเสบ หรือมีกลิ่น ฯลฯ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ เราต้องรีบจัดการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยให้อาจส่งผลให้สูญเสียเล็บ หรือสร้างความเจ็บปวดในระยะยาว ยากแก่การรักษาได้ ดังนั้นแล้ว มาหาวิธีรับมือป้องกันและแก้ปัญหาเล็บเหล่านี้ พร้อม Kaijeaw.com กันดีกว่าค่ะ
advertisement
![เล็บ-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-1.jpg)
1.จมูกเล็บอักเสบ
สาเหตุมักเกิดจากการที่มือและเล็บเปียกน้ำอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะแม่บ้านที่ต้องทำงานบ้านเป็นประจำ รวมรวมถึงสาวๆ ที่นิยมทำเล็บตามร้านเสริมสวย เพราะต้องมีการตัดเล็มจมูกเล็บออก ทำให้เกิดช่องว่างในบริเวณซอกเล็บ เมื่อมือโดนน้ำก็จะมีน้ำเข้าไปเซาะขังอยู่ง่ายดาย และทำให้เกิดปัญหาจมูกเล็บอักเสบในเวลาต่อมา อาการอักเสบนั้นจะมีลักษณะของเล็บที่บวมแดงนูนออกมา มีอาการเจ็บปวดร่วมกับการอักเสบและมีอาการคันๆ พร้อมกัน
การรักษา : ควรหลีกเลี่ยงการต้องสัมผัสน้ำบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการตัดเล็มจมูกเล็บ
advertisement
![เล็บเป็นเชื้อรา-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บเป็นเชื้อรา-1.jpg)
2.เล็บเป็นเชื้อรา
เกิดจากความอับชื้นจนเกิดเชื้อราสะสมอยู่ โดยเฉพาะเล็บเท้า โดยสะสมอยู่ภายในรองเท้าที่คุณสวมอยู่นั่นเอง เมื่อรองเท้าเราสกปรกไม่ได้ทำความสะอาดหรือตากแดดฆ่าเชื้อบ้างเลย ก็ย่อมทำให้เกิดโอกาสที่เล็บเท้าจะติดเชื้อได้ง่ายดาย เมื่อเล็บเท้าเกิดอาการติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ เล็บก็จะเริ่มมีความหนามากขึ้น แต่เปราะหักง่ายโดยเร็ว มีอาการแข็งกระด้าง บิดเบี้ยวและมีสีที่เปลี่ยนไป จนกระทั่งเล็บหลุดออก สำหรับอาการเชื้อราที่เล็บนี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานต่อโรคต่ำ
การรักษา :
– ตัดเล็บในส่วนที่มีเชื้อรากัดกินออกให้หมด
– นำผลมะกรูดมาคั้นน้ำ และใช้สำลีชุบน้ำมะกรูดทาบริเวณที่ติดเชื้อให้บ่อยครั้ง น้ำมะกรูดจะช่วยฆ่าเชื้อราให้ลดลงจนหมดไป
– เน้นบริโภคผักสวนครัวจำพวกกระเทียม หัวหอม ถั่วฝักยาว พริก และบร็อคโคลีหรือผักใบเขียว อาหารทะเลจำพวกหอย ปลา แซลมอน ปลาทูน่า และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะขาม แตงโม เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะช่วยยับยั้งเซลล์แบคทีเรีย และเชื้อราบนผิวหนังให้มีจำนวนลดลงจนหายไปในที่สุด
[ads]
advertisement
![เล็บ-3](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-3.jpg)
3.เล็บกร่อน
อาการของเล็บกร่อนจะมีลักษณะเล็บผุ กร่อน เปราะแตกหักง่าย เล็บขยุกขยุย เสียรูปทรงและเป็นรอยลูกคลื่นบ้าง มีลักษณะบุ๋ม โค้งงอและหนาขึ้นบ้าง ฯลฯ สีเล็บนั้นจะมีลักษณะต่างไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย สำหรับภาวะนี้จะเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
การรักษา : ควรพบแพทย์ สำหรับการป้องกันนั้น หากทานวิตามินบำรุงเล็บอย่างไบโอตินก็จะสามารถช่วยให้สุขภาพเล็บดีขึ้น
advertisement
![เล็บ-4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-4.jpg)
4. สะเก็ดเงินที่เล็บ
มักจะพบว่าเกิดขึ้นเป็นสะเก็ดผื่นหนาๆ ที่ศีรษะ ข้อศอก หัวเข่าของคนเราแล้ว ยังสามารถเกิดอาการนี้ได้ แม้แต่กับเล็บของคนเราได้อีกด้วย โดยลักษณะของเล็บนั้นจะมีความหนาขึ้นที่ปลายเล็บ โดยสามารถมองเห็นได้ชัด เล็บบุ๋ม และเล็บเป็นลูกคลื่น
การรักษา : ควรพบแพทย์ และควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของเล็บอยู่เสมอ
advertisement
![เล็บขบ-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บขบ-2.jpg)
5. เล็บขบ
เมื่อเล็บยาวขึ้น แล้วตัดเล็บผิดรูปทรงคือ ตัดให้มีลักษณะปลายโค้งงอเป็นรูปไข่ ทำให้เล็บที่งอกใหม่ไปเจริญฝังและกดแนวจมูกเล็บ หรือสวมรองเท้าที่คับแน่นเท้าจนเกินไป จนทำให้รู้สึกปวดมากเมื่อถูกกดทับ หากปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้ช้ำและอักเสบจนเป็นหนองได้
การรักษา : เบื้องต้นคือ หมั่นเล็มขอบเล็บให้บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าที่บีบรัดหน้าเท้า และอย่าตัดขอบเล็บให้ลึกจนเข้าไปกินเนื้อ เพราะหากขอบเล็บเกิดแผล เล็บที่งอกใหม่จะเจริญจนไปฝังตัวทิ่มบริเวณที่เป็นแผล
advertisement
![เล็บ-5](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-5.jpg)
6. ดอกเล็บ
จุดขาวเล็กๆ ใต้แผ่นเล็บ คือดอกเล็บ ไม่ใช่อาการผิดปกติที่ร้ายแรง แต่เป็นเพียงแค่อาการที่ร่างกายเตือนว่ากำลังขาดสารอาหารจำพวกสังกะสี หรือได้รับบาดเจ็บ ได้รับแรงกระทบกระเทือนบริเวณหนังกำพร้าที่ฐานเล็บ หรืออาจได้รับสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าสู่เล็บ ซึ่งไม่ว่าจะโดยสาเหตุใดก็ตาม ดอกเล็บนี้จะหายไปเองเมื่อถึงเวลา
การรักษา : เน้นบริโภคอาหารจำพวกแร่ธาตุสังกะสีและวิตามินบี เช่น เนื้อสัตว์ปีก อาหารทะเล ถั่วเปลือกแข็ง ผักใบเขียว ข้าวซ้อมมือ และธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น
advertisement
![เล็บ-6](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-6.jpg)
7. เล็บมีสีดำคล้ำ
อาจเกิดจากการที่เล็บไปกระทบกระแทกกับสิ่งใดแรงๆ และหากบริเวณปลายนิ้วมีอาการบวมเป่งด้วย
การรักษา : ควรรีบไปพบแพทย์โรคผิวหนัง และที่สำคัญอย่าแคะเขี่ยเพื่อให้อาการบวมเป่งนั้นยุบแฟบ เพราะหากนิ้วและเล็บคุณเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อลุกลามได้
8. เล็บเปลี่ยนเป็นสีต่างจากสีเล็บปกติ
ไม่ว่าจะเป็นสีแดง น้ำเงิน เหลือง น้ำตาล หรือสีอื่นใดที่ผิดจากสีเล็บปกติโดยที่ไม่ได้เกิดจากการกระทบกระแทกหรือเสียดสีใดๆ ให้คิดก่อนว่านั่นอาจหมายถึงเล็บของคุณเกิดการติดเชื้อ
การรักษา : ควรไปพบแพทย์โรคผิวหนังเพื่อรับการตรวจรักษา
advertisement
![เล็บ-8](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-8.jpg)
9. เกิดร่องระหว่างเล็บกับผิวหนังและเล็บมีเส้นสีขาว
อาการลักษณะนี้มักจะเกิดในแนวขวางหรือแนวนอนของเล็บ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นผลจากอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ของร่างกาย หรือเป็นผลที่เกิดหลังจากการผ่าตัด ลักษณะดังกล่าวนี้ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
10. เล็บเป็นจุดกระขาวๆ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เล็บลักษณะนี้ไม่มีอันตรายใดๆ กับสุขภาพ สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการเสียดสีหรือกระทบกระแทกกับสิ่งใดๆ สามารถหายได้เองในไม่ช้า
advertisement
![เล็บ-10](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/05/เล็บ-10.jpg)
การป้องกันโรคของเล็บ คือการดูแลและบำรุงให้สะอาด และสุขภาพดี สามารถทำได้ดังนี้
> ตัดเล็บอย่างถูกวิธี
– ควรตัดหลังการอาบน้ำ หรือแช่มือในน้ำ เพื่อทำให้เล็บอ่อนตัวลง ตัดได้ง่ายขึ้น
– เริ่มตัดตรงกลางเล็บในแนวเส้นตรง แล้วค่อยๆ เล็มเก็บมุมทีละด้าน ทรงเล็บที่ถูกต้องควรเป็นขอบตัดคล้ายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อป้องกันเล็บที่เกิดใหม่ไม่ให้ไปฝังตัวบริเวณจมูกเล็บ ก่อให้เกิดเล็บขบได้ง่าย
– ตะไบขอบเล็บเพื่อลบความคมของรอยตัด โดยเริ่มจากมุมข้างใดข้างหนึ่งไปเรื่อย ๆ
– ล้างมือและเช็ดให้แห้ง
> หลีกเลี่ยงสารเคมี
– ไม่ทาสีเล็บบ่อยๆ คราวละนานๆ
– ไม่สัมผัสน้ำยาสารเคมีภัณฑ์ต่างๆ โดยตรง โดยเฉพาะน้ำยาทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน ควรสวมถุงมือป้องกันทุกครั้ง
> การเลือกใช้ครีมบำรุงมือและเล็บ
นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพเล็บให้แข็งแรงแล้ว สาวๆ ควรหมั่นทาครีมบำรุงมือและเล็บไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเล็บมือและเล็บเท้าก็ย่อมได้รับการใส่ใจบำรุงดูแลด้วยกันทั้งนั้น โดยหมั่นทาเป็นประจำทั้งเช้า-เย็น สารอาหารจากครีมบำรุงจะช่วยให้ผิวเล็บของคุณแข็งแรงยิ่งขึ้น มีความยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้านจนแตกเปราะง่าย และสามารถดูแลบำรุงเล็บได้ ดังนี้
– สูตรน้ำมันมะกอกนำน้ำมันมะกอกไปอุ่นจากนั้นแช่มือของคุณเอาไว้ในน้ำมันมะกอกสักครู่ แล้วเช็ดออกเบาๆ เล็บของคุณจะนุ่มมากขึ้น อีกทั้งยังป้องกันปัญหาผิวเล็บไม่ให้แห้งกร้าน เปราะบางและฉีกหักง่ายอีกด้วย หรือจะใช้น้ำมันมะกอกทานวดให้ทั่วมือและเล็บ โดยไม่ต้องล้างออก ทำเป็นประจำก่อนนอน
– สูตรนมสด อุ่นนมสด จากนั้นนำมือไปจุ่มแช่ไว้ประมาณ 3-5 นาที เช็ดออกเบาๆ จะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรงยิ่งขึ้น
– น้ำมันโอลีฟหยดน้ำมันโอลีฟลงในน้ำอุ่น 2-3 หยด จากนั้นนำมือลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วเช็ดออกเบาๆ จะช่วยบำรุงผิวสุขภาพเล็บให้สดใส มีความชุ่มชื้นไม่แตกหักง่าย
– สูตรกระเทียมบดกระเทียมให้ละเอียด จากนั้นนำมาทาบนผิวเล็บสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรงขึ้น
[ads]
เพราะเรื่องสุขภาพนั้นสำคัญ ไม่ว่าจะส่วนใดก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องของเล็บ อวัยวะเล็กๆ ที่ใครหลายคนมองข้าม ดังนั้น สาวๆ ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเล็บกันมากให้ขึ้นแล้วนะคะ หมั่นดูแลรักษาความสะอาด ปกป้องเล็บ รวมถึงหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเล็บ จะได้ทำการดูแลรักษาให้หายได้ ไม่เช่นนั้นหากทิ้งให้เป็นปัญหาเรื้อรัง อาจจะต้องสูญเสียเล็บได้
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com