10 วิธีรับมืออาการเมาค้าง ด้วยวิธีง่าย ๆ ดื่มหนักแค่ไหนก็ได้ผล !!
advertisement
นักดื่มหลายๆคนคงไม่มีใครไม่เคยผ่านอาการเมาค้าง หลังจากเมื่อคืนสนุกสุดเหวี่ยงมาแล้ว พอตื่นเช้ามาต้องเผชิญกับอาการที่แสนจะทรมาน อย่างอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน บางคนถึงกับเคยพูดว่า "ฉันจะไม่ดื่มมันอีกแล้ว" แต่ก็ทำไม่ได้สักที!! อาการเมาค้างมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ ซึ่งแอลกอฮอล์นั้นก็คือยาขับปัสสาวะอย่างหนึ่ง โดยจะขับของเหลวออกจากร่างกาย แต่ก็ไม่วายขับแร่ธาตุที่สำคัญของร่างกายตามออกมาอีกด้วย จนทำให้หลายคนต้องเจอกับอาการแฮงค์จนเสียการเสียงานกันเป็นแถว โชคร้ายที่ตอนนี้ยังไม่มีวิธีรักษาหรือยาแก้อาการเมาค้างที่ทำให้หายได้แบบทันที แต่ยังมีหลายวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการเมาค้างให้ดีขึ้นได้ ส่วนจะมีวิธีไหนบ้าง มาดูกัน….
advertisement
เริ่มจากการป้องกันกันก่อน นักดื่มหลายๆคนคงทราบกันดีแหละว่า ก่อนที่จะไปดื่มสังสรรค์ ควรจะรับประทานอาหารรองท้องเสียก่อน เพื่อเป็นการเคลือบกระเพาะไม่ให้แอลกอฮอล์ซึมผ่านสู่อวัยวะต่างๆ เร็วเกินไป แต่ลองเปลี่ยนจากการกินอาหารธรรมดามาเป็นอาหารไขมันสูงอย่างน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนดื่ม เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยร่างกายชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้เหมือนกัน
advertisement
แน่นอนว่ายิ่งดื่มหนักมากเท่าไหร่ร่างกายยิ่งขาดน้ำ และอาการเมาค้างก็ยิ่งเพิ่มพูล หากคุณอยากหายจากอาการเมาค้าง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเพิ่มน้ำให้ร่างกาย โดยดื่มน้ำให้มากๆ หลังจากตื่นนอน เพราะการดื่มน้ำจะช่วยขับแอลกอฮอล์ออกมาทางปัสสาวะ ไม่นานอาการปวดหัว ท้องไสว้ปั่นป่วนก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง [ads]
advertisement
คนที่มีอาการเมาค้างหากได้ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ อย่างชาขิง จะช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ แถมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของตับในการขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ส่วนวิธีทำก็ง่ายๆ เพียงต้มขิงสดที่หั่นไว้ประมาณ 10-12 ชิ้น ในปริมาณน้ำประมาณ 4 ถ้วย จากนั้นบีบน้ำส้มลงไปหนึ่งลูก เลมอนอีกครึ่งลูก แล้วตามด้วยน้ำผึ้งอีกครึ่งถ้วย โดยส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยบรรเทาจากอาการเมาค้างได้เร็ว เพราะจะไปรักษาเสถียรภาพของระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีอีกด้วย
advertisement
น้ำผลไม้จะให้ความรู้สึกสดชื่น ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีของคนที่มีอาการเมาค้าง เพราะ วิตามินและแร่ธาตุในน้ำผลไม้จะช่วยให้คุณมีแรงมากขึ้น ในน้ำผลไม้จะมีปริมาณฟรุกโตสสูง ซึ่งฟรุกโตสก็คือน้ำตาลที่ทำหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ของตับ โดยขอแนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อย่างน้ำมะเขือเทศ และน้ำส้ม
advertisement
เครื่องดื่มเกลือแร่จะช่วยทำแทนปริมาณน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายคุณด้วย และหากเกิดอาการแฮงค์และเพลียมากๆ ลองชงเครื่องดื่มเกลือแร่แล้วซดทีเดียว หรือจะค่อยๆ จิบระหว่างวันก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว แต่ควรระวังเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มี คาเฟอีน เพราะว่าคาเฟอีนจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากกว่าเดิม
advertisement
แน่นอนว่าหากคุณมีอาการเมาค้าง แล้วไม่กินอะไรเลยในตอนเช้า มันยิ่งจะทำให้คุณแย่ลงไปกว่าเดิม ฉะนั้นอาหารเช้าจึงสำคัญมากๆ เพราะการรับประทานมื้อเช้าจะไปช่วยเติมพลังงานกลับคืนสู่ร่างกาย หลังจากที่ดื่มหนักมาทั้งคืน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการแฮงค์
advertisement
หลังจากที่ร่างกายเสียน้ำอย่างหนักเนื่องจากการดื่ม ซึ่งถ้าคุณปัสสาวะบ่อย ร่างกายคุณก็จะสูญเสียโพแทสเซียมมากกว่าปกติ และเมื่อร่างกายมีระดับโพแทสเซียมต่ำ คุณก็จะรู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งเครื่องดื่มเกลือแร่ก็เป็นตัวช่วยที่ดีอย่างหนึ่ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า มีงานวิจัยออกมาว่าน้ำมะพร้าวมีปริมาณของโพแทสเซียม เยอะกว่าเครื่องดื่มเกลือแร่ถึง 5 เท่า [ads]8. กินน้ำซุปจากผัก
น้ำซุปจากผักเป็นแหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุชั้นดี เมื่อคุณมีอาการปวดหัว ท้องไส้ปั่นป่วน ลองซดน้ำซุปที่ทำจากผักร้อนๆสักถ้วย และคุณจะรู้สึกดีขึ้น และน้ำซุปก็เป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อคุณรู้สึกว่าไม่อยากจะกินอาหารหนักๆ สักเท่าไหร่
advertisement
การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างกาแฟ มันยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำหนักกว่าเดิม นอกจากนี้คาเฟอีนจะทำให้หลอดเลือดตีบลงและทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้อาการเมาค้างของคุณแย่ลงกว่าเดิม10.กินไข่
ไข่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่เรียกว่า ซีสเทอีน (cysteine) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย หลังจากที่คุณได้ดื่มมาอย่างหนักจนมีอาการเมาค้าง ซึ่งซีสเทอีนจะไปทำหน้าที่ถอนพิษที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยดีหลังจากการดื่ม ด้วยการทำความสะอาดสารพิษที่หลงเหลือในร่างกาย นอกจากนี้การกินไข่สามารถช่วยให้คุณมีแรงและพลังมากขึ้นได้ด้วย
วิธีการที่ว่ามาทั้งหมดเป็นแค่ตัวช่วยเพื่อบรรเทาอาการ ให้ทุเลาลงเพียงแค่นั้น ซึ่งอาการเมาค้าง ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ดื่ม ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไหนเข้าไป หากชนิดที่แรงอย่างบรั่นดี ซึ่งยิ่งดื่มเข้าไปมากๆ ก็คงจะอยากอยู่เหมือนกัน ฉะนั้น ขอให้นักดื่มทั้งหลาย ดื่มกันแค่พอดี และรู้ลิมิตตัวเอง จะได้ไม่ต้องมานั่งทรมานในอาการเมาค้างในตอนเช้า และที่สำคัญ จำไว้ว่าหลังจากดื่มมาแล้ว อย่าขับรถเด็ดขาด
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com