ร้านหมูกระทะขอแจง กรณีติดป้ายปรับน้ำจิ้มเหลือ
advertisement
กลายเป็นเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายเมื่อทางหมูกระทะร้านหนึ่งได้ขึ้นป้ายกฎข้อห้ามของทางร้านซึ่งขึ้นป้ายระบุว่า "ห้ามนำอาหารเข้ามารับประทานในร้าน นำเครื่องดื่มเข้ามาดื่มในร้าน ค่าเปิดขวดละ 50 บาท น้ำจิ้มทานไม่หมดปรับช้อนละ 10 บาท #หวังว่าลูกค้าจะอ่านหนังสือออกนะคะ"
advertisement
โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็ได้มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย และคนไม่ชอบที่ทางร้านใช้คำที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคำว่า "#หวังว่าลูกค้าจะอ่านหนังสือออกนะคะ" จนทำให้เกิดประเด็น
advertisement
ทั้งนี้ทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงว่า "สำหรับดราม่านี้ทางร้านขอชี้แจงเลยนะคะ ว่าทางร้าน #ขายเป็นชุดไม่ได้ขายบุฟเฟ่ต์ การที่เราเขียนว่าปรับ เราไม่อยากให้ลูกค้ากินเหลือเทแค่พอดี เรามีขวดน้ำจิ้มให้ ถ้วยให้ใส่แบ่ง เราไม่ได้เทไปบังคับคุณกิน และสำหรับน้ำจิ้มเราไม่ได้คิดเงินเพิ่ม เวลาลูกค้าขอเพิ่มเราก็ไม่ได้คิดเพิ่ม แต่เราขอแค่อย่ากินเหลือ ค่อย ๆ เทเอาก็ได้ และที่ผ่านมาลูกค้ากินเหลือกันเยอะมากเททิ้งเทขว้าง เราซื้อมาคุณต้องนึกถึงใจเราบ้าง"
"จริงๆ ไม่ควรเขียนเหน็บนะครับ มันไม่น่ารัก จะปรับก็ปรับไป บางคนเค้าก็สะดวกจะจ่ายค่าปรับ เหตุผลเราไม่เหมือนกันหรอกครับ หวังว่าทางร้านจะปรับปรุงความคิดเนอะ"
advertisement
"แถวบ้านมี เป็นร้านตึกแถว ป้าๆ ไม่ยิ้ม ไม่มีหางเสียง ติดป้ายห้ามเอาอาหารมานั่งกินที่ร้าน ไม่เข้าอีกเลย"
advertisement
"เขียนเตือนธรรมดาๆ แล้วก็ค่อยจัดการเคสเป็นรายๆ ที่ดื้อไป แต่เขียนแบบนี้เหมือนเขียนด่า โดนลูกค้าที่ดี ทำให้เค้ารู้สึกไม่ดีไปด้วย "
advertisement
"เอาง่ายๆสำหรับผมนะครับ….เรื่องมาก…พูดหรือเขียนแดกดัน ฯลฯ . ที่เราคิดว่าไม่O.K.ก็อย่าเข้าไปกินเลยครับ…เงินเรา..งามพอใจ..ความสบายใจ..ของเราในกฎในเกณฑ์ที่ร้านตั้งแล้วสมเหตุสมผลก็O.K.แต่ถ้าเราพลาดเราก็ต้องยอมรับ…โดยเฉพาะพวกบุฟเฟ่ต์ที่หยิบมาแบบตายอดตายอยาก!!!แล้วก็กินไม่หมด…ก็ต้องโดนปรับตามกฎส่วนเรื่องน้ำจิ้มนี่…ส่วนตัวก็มากไป!!! สรุปว่าพอใจก็กิน…ไม่พอใจก็ไม่ต้องกิน ..ไม่มีใครบังคับ!!!! ปิดท้าย…ว่าเดี๋ยวนี้บางร้าน…ขอย้ำว่าบางร้านนะครับ!!!ที่ก็หลงตัวจนทำอะไรเกินขอบเขตก็มีให้เห็นมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น…ผู้บริโภคเองแหละครับที่ตัดสินใจลงไป!!!!"
advertisement
"ไม่นะ เครื่องดื่มที่เอามา เปิดเองตลอด คิดได้ไง 50"
advertisement
"สาเหตุของความเจ๊งที่ไปต่อรองลูกค้าด้วยเหตุผลเหมือนเขียนคำหยาบคายเลยก็ว่าได้"
เป็นเพราะร้านมีต้นทุนน้ำจิ้มที่ต้องจ่าย จึงอยากให้ลูกค้าช่วยเทกินกันแต่พอดี และปกติก็ไม่ได้มีการคิดเงินเพิ่มเวลาลูกค้าขอน้ำจิ้ม แต่ขอแค่อย่ากินเหลือ และขอให้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่ทางร้านต้องทำแบบนี้ แม้ว่าทางร้านจะออกมาชี้แจงแล้ว ลูกค้าได้แสดงความไม่พอใจต่อคำชี้แจงดังกล่าว โดยหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นกันในทิศทางเดียวกันว่า ประเด็นสำคัญที่ดราม่านั้นไม่ใช่เรื่องการเก็บค่าปรับเพิ่ม แต่เป็นการใช้คำพูดตอนท้ายที่ไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำใช้บริบทที่ดีกว่านี้ จนในเวลาต่อมาทางร้านต้องรีบออกมาขอโทษเพิ่มเติมในส่วนของใช้คำ ข้อความข้างต้น และจะทำการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น