ลูกคุย..ผลไม้ป่า ประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึง!!

     ลูกคุย หรือ หมากยาง เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งค่ะ เมื่อสุกแล้วจะมีผลสีเหลืองบางลูกออกส้ม มีรสเปรี้ยวอมหวาน นำมารับประทานเป็นผลไม้ได้ แต่ว่ามียางเยอะพอควรค่ะ เวลาเก็บจากต้นมาแล้วต้องทิ้งไว้ให้แห้ง ยางหมดก่อน แกะเปลือกรับประทานได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าลูกคุยนี้จะเป็นผลไม้ป่าก็ตามทีนะคะ แต่ก็ถือได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากมายต่อสุขภาพ เรียกได้ว่าคาดไม่ถึงเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่สนใจผลไม้ลูกคุยนี้แล้วล่ะก็ มาดูประโยชน์ของลูกคุยกับ Kaijeaw.com กันดีกว่าค่ะ

     ลักษณะของลูกคุย เป็นผลเดี่ยวแบบผลสดมีเนื้อหลายเมล็ด ทรงกลมหรือรูปไข่ ขนาด 5.8-7.2 ซม. เปลือกผลค่อนข้างหนา สีเขียว ผิวเกลี้ยง เมื่อสุกสีเหลืองถึงส้ม มีน้ำยางสีขาวมาก ก้านผลยาว 0.8-1.2 ซม. มีขนเล็กน้อย เมล็ดรูปไข่ กว้าง 1.2-1.6 ซม. ยาว 1.9-2.8 ซม. เนื้อผลลื่นติดกับเมล็ด เปลือกหุ้มผลมีน้ำยางมาก ลักษณะเหนียวสีขาว มีเมล็ดประมาณ 1-3 เมล็ด ผลสุกรับประทานได้มีรสเปรี้ยวอมหวาน ออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ติดผลราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน พบตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ [ads]

       ลักษณะต้นของลูกคุยเป็นเถา มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า กะตังกะติ้ว (ภาคกลาง), หมากยาง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, สุรินทร์, ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี), ตังตู้เครือ (ลำปาง), คุยช้าง (ปราจีนบุรี), คุยหนัง (ระยอง, จันทบุรี), อีคุย (ปัตตานี), โพล้พอ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), อากากือเลาะ (มลายู-ปัตตานี), ต้นคุย เถาคุย เครือ (ไทย), เครือยาง, บักยาง เป็นต้น

ประโยชน์ที่ได้จากการทานลูกคุย
1. เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย
    ลูกคุยเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีวิตามินซีสูง อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานต่อโรคให้แก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยเป็นหวัดบ่อยๆ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และยังช่วยให้ผิวพรรณดี ดูสดใส อ่อนกว่าวัยอีกด้วยค่ะ
2. ช่วยให้ระบาย ลดอาการท้องผูก 
     ด้วยรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ของลูกคุยนี่เองค่ะที่ออกฤทธิ์ช่วยให้ระบาย และมีใยอาหารสูง ทานแล้วรับรองขับถ่ายสะดวก ลดอาการของโรคท้องผูก อันเป็นสาเหตุสำคัญของริดสีดวงทวาร หรือโรคมะเร็งลำไส้
3. มีใยอาหาร ช่วยลดความอ้วน
     ลูกคุยมีส่วนประกอบหลักเป็นใยอาหารและน้ำ แม้จะมีรสชาติหวานก็ให้พลังงานที่มาพร้อมใยอหารและน้ำ ทำให้ทานแล้วอิ่มง่าย ใยอาหารจะเข้าไปยึดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลที่จะเข้าไปเป็นพลังงานส่วนเกิน อันจะเป็นไขมันสะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ด้วย [ads]

สรรพคุณทางยาสมุนไพรของเถาคุย
    – เป็นยาบำรุงกำลัง หมอยาอีสานจะใช้ลำต้นคุยผสมกับลำต้นม้ากระทืบโรง ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงกำลัง และเป็นยาอายุวัฒนะได้
    – แก้อาการปวดหัว เปลือกต้นมีรสฝาด ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการปวดศีรษะได้ 
    – แก้เจ็บคอ เจ็บหน้าอก โดยรากมีรสฝาดใช้ต้มดื่มเป็นยา
    – ยารักษาโรคบิด ใช้เถา ลำต้น หรือรากนำมาต้มดื่มเป็นยา
    – ลดอาการท้องผูก ผลสุกใช้รับประทาน ช่วยหล่อลื่นลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก 
    – แก้ตับพิการ ลำต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยา
    – ยาแก้น้ำเหลืองเสีย ตำรับยาพื้นบ้านภาคใต้จะใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยา
    – ยาทาแผล ใช้ผลดิบมีรสเปรี้ยวฝาด ใช้ผลดิบตากแห้งย่างไฟ แล้วป่นนำมาผสมกับน้ำ ใช้ทาแผล
    – แก้คุดทะราด และแก้เท้าเป็นหน่อ ด้วยยางมีรสฝาดร้อน 
    – ยารักษาโรคคุดทะราด ลำต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยา
    – แก้โรคตัวเหลืองในทารก ใช้รากนำมาตำให้ละเอียดใช้เป็นยาทา
    – แก้มือเท้าอ่อนเพลีย นำลำต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยา หรือใช้จะส่วนรากและเถาก็ได้เช่นกัน
    – แก้อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอยาพื้นบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานีจะใช้เถาคุยนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยา
    – แก้ประดงเข้าข้อ ลมขัดในข้อ ลมขัดในกระดูก เถาหรือลำต้นมีรสฝาด นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยา

     ได้ทราบประโยชน์และสรรพคุณของลูกคุยเช่นนี้แล้ว เชื่อว่าทำให้ใครๆ หลายคนนึกอยากจะกินลูกคุยขึ้นมากันบ้างแล้วนะคะ แต่ลูกคุยก็เป็นผลไม้ป่าชนิดหนึ่งที่หาทานได้เฉพาะบางพื้นที่ และออกผลตามฤดูกาล คือช่วงราวๆ เดือนกรกฎาคมถึงกันยายนเท่านั้น อย่างไรก็ลองหามากินกันดูนะคะ ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com