ว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทย…หากคุณได้รู้สรรพคุณ ของเขาแล้วคุณจะทึ่ง!!
advertisement
สมุนไพรลักษณะต้นคล้ายๆ กับหางจระเข้ เรียกกันว่า “ว่านหางจระเข้” บ้านเราคุ้นหูคุ้นตาดี หลายบ้านมีปลูกติดบ้านเป็นไม้ประดับชนิดหนึ่ง เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายใช้ในการรักษาแผลไฟไหม้ ปัจจุบันมีการนำมาใช้ในครีมบำรุง ดูแลผิวต่างๆ เพราะมีสารอาหารที่ดีต่อผิวมากมาย ทั้งยังมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย เป็นยาดี Kaijeaw.com ไม่พลาดค่ะ มารายงานสารพัดคุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ ไปดูกันค่ะ
advertisement
สารอาหารในว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เต็มไปด้วยเจลที่มีส่วนผสมของวิตามินหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นวิตามิน A B1 B2 B3 B6 B12 C และ E แร่ธาตุที่พบในว่านหางจระเข้มีทั้งทองแดง เหล็ก โซเดียม แคลเซียม สังกะสี โพแทสเซียม โครเมียม แมกนีเซียมและแมงกานีส สามารถใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน
– รักษาแผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวก นำวุ้นที่ล้างอย่างสะอาด ใช้สดๆ ประคบแผลตลอด 2 วันแรก จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน สมานแผลให้หายเร็ว และไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นอีกด้วย
– ดูแลรักษาผิวที่โดนแดดไหม้ ใช้วุ้นสดๆ ของว่านหางจระเข้ล้างสะอาดผสมกับโลชั่นทาลงบนผิวหนังก่อนออกแดด จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ สำหรับผิวโดนแสงแดดไหม้แล้ว ให้ใช้วุ้นที่ล้างสะอาดมาบดผสมน้ำผึ้ง ทาเพื่อลดอาการอักเสบ
– รักษา สมานแผล บาดเจ็บจากของมีคม ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ที่ยังมีเมือกอยู่ แปะลงไปบนแผล จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสมานแผลให้เร็วขึ้นได้
– รักษาฝีและโรคริดสีดวงทวาร หลังจากทำความสะอาดบริเวณที่เกิดโรคให้แห้งแล้ว นำวุ้นไปแปะลงบนแผล หากเป็นทวารหนักให้ปอกวุ้นให้เป็นแท่งแล้วล้างให้สะอาด นำไปแช่เย็นให้แข็ง เพื่อสอดเหน็บในช่องทวารหนักวันละ 1-2 ครั้ง อาการริดสีดวงจะดีขึ้น
[ads]
advertisement
– รักษาตาปลาและฮ่องกงฟุต นำเนื้อวุ้นที่ล้างทำความสะอาดแล้ว ไปแปะลงบริเวณที่เกิดโรค หมั่นเปลี่ยนเนื้อวุ้นบ่อย ๆ โดยหากเป็นตาปลาส่วนที่แห้งลงจะเกิดรูบุ๋มขึ้น ให้ใช้ว่านหางจระเข้ประคบต่อไปจนกว่ารอยบุ๋มจะดีขึ้นและเล็กลง ส่วนฮ่องกงฟุตใช้วุ้นว่านหางจระเข้แปะเอาไว้จนกว่าแผลจะแห้งลงและอาการดีขึ้น
– ยุงกัดก็ใช้เมือกว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่ถูกกัดได้ ลดบวมแก้คัน
– ลดอาการปวดข้อ ด้วยการรับประทานวุ้นว่านหางจระเข้
– ใช้เป็นยาถ่าย ใช้น้ำยางสีเหลือง (เลือกใบจากต้นที่อายุประมาณ 9 เดือนขึ้นไป) นำไปเคี่ยวให้ข้น เทลงในพิมพ์ขนาดเล็กให้แข็งเป็นก้อนรับประทานเป็นยาได้ ซึ่งเม็ดยาจะมีสีแดงอมน้ำตาลไปจนถึงดำ เรียกว่า ยาดำ แบ่งรับประทานครั้งละประมาณอ250 มิลลิกรัม จะเป็นขนาดที่เหมาะสมในการใช้เป็นยาถ่าย
– แก้กระเพาะอักเสบและลำไส้อักเสบ รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของทางเดินอาหารได้
– ป้องกันโรคเบาหวาน รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ทุกวัน หรือจะปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้ โดยอาการเบาหวานจะทุเลาลงสำหรับผู้ที่เป็นในระยะแรก ส่วนผู้ที่ต้องการรับประทานเพื่อป้องกัน สามารถรับประทานในปริมาณที่น้อยลงได้
– แก้และป้องกันอาการเมารถเมาเรือ รับประทานเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้ หรือน้ำว่านหางจระเข้ ก่อนออกเดินทางจะช่วยบรรเทาให้เกิดอาการดังกล่าวน้อยลงได้ แต่หากเกิดอาการเมารถเมาเรือขึ้นแล้ว ลองทานน้ำว่านหางจระเข้เย็น ๆ ให้ความรู้สึกชื่นใจ แล้วนั่งพักสักครู่ จะรู้สึกดีขึ้น
– บำรุงร่างกาย รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้เป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง
– บำรุงสายตา รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้เป็นประจำ จะทำให้สายตาไม่พร่ามัว
– แก้เมาค้าง ผู้ป่วยที่เมาค้างจะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากการทำงานของตับบกพร่อง หากได้รับประทานว่านหางจระเข้จะช่วยให้ตับสามารถทำงานได้เป็นปกติเร็วขึ้น เนื่องจากว่านหางจระเข้ช่วยสลายพิษได้
[yengo]
advertisement
ข้อควรระวัง
– ยาง และ ยาดำ ที่ได้จากยางว่านหางจระเข้ สตรีมีครรภ์ไม่ควรทาน
– หากใช้กับผิวแล้วมีอากทรแพ้ ให้หยุดและล้างออกทันที
– สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน การดื่มน้ำว่านหางจระเข้มีทางทำให้ตับอ่อนสร้างอินสุลินมากขึ้น หากได้รับเกินเป็นอันตรายมาก ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
– การกินวุ้นว่านหางจระเข้สดๆ ควรจะล้างยางให้ออกให้หมดจริงๆ จนไม่มีรสขมเหลืออยู่เลยมิฉะนั้นยางที่ติดค้างอยู่กับวุ้นจะไประคายเคืองกระเพาะและลำไส้ ทำให้อาเจียนและท้องเสียได้
ถึงตอนนี้ทุกคนคงได้รู้สารพัดประโยชน์ และข้อควรระวังของว่านหางจระเข้กันแล้วนะคะ บ้านไหนปลูกไว้ที่บ้านยังไม่เคยได้ใช้งาน น่าเสียดายประโยชน์ดีๆนี้นะ ลึกขึ้นไปหยิบมาใช้เลยค่ะ บ้านไหนยังไม่มีจะหามาปลูกประดับบ้าน หยิบใช้งานก็ได้สะดวกดีน๊า ปลอดภัยไร้สารเคมี
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com