บอกลาผื่นคันด้วย 10 สมุนไพรใกล้ตัว
advertisement
อาการผด ผื่น คัน ที่มักจะเป็นกันบ่อยๆ เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง ความอับชื้น ความร้อน มลภาวะ หรือโรคผิวหนัง ต่างเป็นสาเหตุให้เกิดผื่นคันนั้นได้ง่ายๆ หากเกิดขึ้นก็มักสร้างความหงุดหงิดรำคาญได้มากน้อยตามแต่อาการ หรือจนกระทั่งรบกวนชีวิตประจำวันจนทนไม่ไหว คงจะดีไม่น้อยนะคะที่เราจะรับมือกับอาการนี้ได้ง่ายๆ ตาม Kaijeaw.com มาดูสมุนไพรมีประโยชน์รักษาผด ผื่นคัน กันค่ะ
advertisement
>> สาเหตุของการคันมีมากมาย แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
1. เกิดจากความผิดปกติ ของผิวหนังบริเวณที่คันเองการคันประเภทนี้ มักมีผื่นร่วมด้วย ซึ่งการพบแพทย์ผิวหนัง จะสามารถให้การวินิจฉัยแบบเฉพาะเจาะจงลงไปได้ถึงสาเหตุ เช่น
2. จากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส อาการทำให้เกิดอาการคันได้ทั้งสิ้น แต่ลักษณะผื่นจะแตกต่างกัน เช่น เชื้อราที่ลำตัว ผื่นจะมีลักษณะเป็นวง ขอบแดงนูน หรือการติดเชื้อไวรัสเช่นเริม หรืองูสวัสดิ์ ผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หรือแม้กระทั่งโรคหิด โรคนี้จะมีอาการคันที่รุนแรงโดยเฉพาะเวลากลางคืน มีผื่นขึ้นตามซอกนิ้ว โรคในกลุ่มนี้สามารถติดต่อได้ หากสงสัยควรมาพบแพทย์โดยเร็วก่อนที่จะแพร่กระจายไปให้คนอื่นที่บ้าน
[ads]
advertisement
– ผิวหนังอักเสบ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคค่อนข้างหลายหลาก เช่นเกิดจากภูมิแพ้ภายในร่างกาย การแพ้สัมผัส เป็นต้น ตำแหน่งและลักษณะของผื่นนั้นมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่สาเหตุ การพบแพทย์เพื่อทำการทดสอบสาเหตุที่แน่นอนได้
– ลมพิษ โดยทั่วไปลมพิษนั้น อาการจะเป็นๆหายๆ แต่ละผื่น ไม่เกิน หนึ่งวัน และหายโดยไม่มีรอยดำ
– โรคผิวหนังอื่นๆ เช่นสะเก็ดเงิน โรคผิวแห้ง โรค lichen planus ซึ่งแต่ละโรคมีลักษณะผื่นและการรักษาที่ต่างกันออกไป
– เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย โรคในกลุ่มนี้อาจไม่มีลักษณะเฉพาะที่ผิวหนัง หากแต่มีแต่รอยการเกาเท่านั้น โรคภายในร่างกายที่สามารถทำให้เกิดอาการคันได้เช่น
– โรคพยาธิ
– โรคเรื้อรังต่างๆ หรือโรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน โรคไตวาย โดยเฉพาะในคนที่คุมเบาหวานไม่ค่อยดี จะมีอาการคันตามตัวได้มาก
– โรคดีซ่านจากการอุดตันของทางเดินน้ำดี โดยคนไข้อาจมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย บางคนอาจสังเกตว่ามีอุจจาระที่สีซีดขาว ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
– โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะพบอาการคันได้มากกว่ามะเร็งชนิดอื่น
advertisement
>> อาการของโรคผดผื่นคัน
จะมีลักษณะได้ 3 แบบ คือ
1.เป็นแค่ตุ่มแดงๆ อาจจะมีอาการคันเล็กน้อย
2.เป็นตุ่มน้ำใสๆ ตื้นๆ และ
3.เป็นตุ่มหนอง
เมื่อไปพบแพทย์มักให้ยาทาและยารับประทานในการรักษา
[yengo]
advertisement
>> สมุนไพรรักษาโรคผดผื่นคัน
ทั้งนี้ เราสามารถรักษาโรคผดผื่นคันได้ด้วยตัวเอง จากสมุนไพรธรรมชาติ ดังต่อไปนี้
1.ว่านหางจระเข้ โดยการใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ทาผิวที่ระคายเคืองจากผดผื่นคัน วันละ 2-3 ครั้ง โดยล้างผิวให้สะอาดก่อนทาทุกครั้ง สารอาหารจากว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาอาการคัน และรักษาโรคผิวหนัง รวมทั้งฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
2. ขมิ้นชัน วิธีการคือให้นำเหง้าสดของขมิ้นชันมาล้างให้สะอาด ตำให้เกิดน้ำแล้วนำมาทาผิว หรืออาจจะใช้ไพลที่มีลักษณะคล้ายกับขมิ้นชัน นั่นคือนำเหง้าไปบดให้ผงแล้วนำไปผสมน้ำก่อนทาผิว หรือใช้เหง้าสดล้างให้สะอาด ฝนกับน้ำแล้วทาผิว
3. พลู นำใบสดๆเพียง 3-4 ใบ มาตำแล้วคั้นเอาน้ำผสมกัลเหล้าโรง ก็สามารถช่วยลดอาการของผดผื่นคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ฟ้าทะลายโจร สามารถนำใบสดมาตำแล้วคั้นเอาน้ำมาทาบริเวณที่มีอาการผดผื่นคัน หรือใช้ลำต้นต้มกับน้ำมันมะพร้าวจนเปื่อย แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำยามาทาก็ได้
6.สะเดา ใช้ได้ทั้งส่วนใบและเปลือกต้นสะเดา เพราะมีคุณประโยชน์สูงคล้ายคลึงกับทีทรีออยล์ เช่น การต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา และต้านเชื้อไวรัส ช่วยบรรเทาอาการคัน อาการแพ้ของผิว หรือผิวที่แห้ง และจัดการกับโรคผดผื่นคันได้อย่างดี
7. ใบกะเพรา เอาใบกะเพราสดมาขยี้แรงๆจนละเอียด แล้วทาตรงบริเวณจุดแผลที่คันก็จะหายไป แถมยังไม่มีตุ่มคันบวมหรือหนองขึ้นด้วย
8. กระเทียม ใช้กลีบกระเทียมฝานเป็นชิ้นบางๆหรือตำพอแหลก ทาบริเวณที่คัน โดยเฉพาะโรคผิวหนังอย่างกลากเกลื้อน วันละ 2 ครั้ง หลังจากหายแล้วให้ทายาต่อไปอีก 7-10 วัน
9. ชุมเห็ดเทศ นำใบชุมเห็ดเทศสด 3 ใบมาตำให้ละเอียด ผสมปูนแดงที่ใช้กินกับหมากและน้ำเล็กน้อย หรือใช้ใบชุมเห็ดเทศสดมาตำแล้วแช่เหล้าขาวพอท่วมยาไว้ประมาณ 3-5 วัน หมั่นคนยาที่แช่ไว้บ่อยๆ แล้วเอาส่วนที่เป็นน้ำมาทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนวันละ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหาย
10. มะคำดีควาย ใช้ผลทุบให้แตกแช่น้ำ หรือต้มกับน้ำแล้วนำน้ำที่ได้มาสระผม แก้รังแค และสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง
สมุนไพรมีประโยชน์มากมาย ราคาถูก หาได้ง่ายๆ บางชนิดก็นิยมปลูกในครัวเรือน หากมีอาการผื่นผดคัน หรือโรคผิวหนังชนิดต่างๆ ที่นำมาซึ่งความรำคาญและทำให้เสียบุคลิค รวมไปถึงยังทำร้ายผิวของเราอีกด้วย อย่าลืมหาสมุนไพรเหล่านี้มาใช้กันด้วยนะคะ ใช้ได้ผล ไร้สารเคมีตกค้าง แถมยังประหยัดตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยน๊า
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com