สุดยอดการวางระบบ สวนมะละกอ 40-50 ไร่ ได้ผลดีแถมไม่เหนื่อย
advertisement
การทำไร่ทำสวน ถ้าขนาดเล็กก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากในการจัดการเท่าไหร่นัก แต่ว่าถ้าหากการทำไร่ทำสวนขนาดใหญ่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายในการจัดการในการดูแลสวน ต้องคิดและทำระบบให้ครอบคลุม
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก พ่อ น้องออร์แกน ได้โพสต์แบ่งปันประสบการณ์ในการทำสวนมะละกอ ขนาด 40-50 ไร่ ทำยังไง ดูแลยังไงให้เป็นระบบจัดการง่าย โดยได้โพสต์ระบุว่า…
advertisement
อันนี้ภาพเก่าแปลงที่เคยทำมา ทำทั้ง ฮอนแลนด์ และ แขกนวล ระบบน้ำ ทำมาทั้งแบบ auto หรือ จะเป็นเครื่องยนต์ใช้น้ำมัน เทปน้ำหยด เทปน้ำพุ่ง สปริงเกอร์ มินิสปริงเกอร์ ลองทำมาหมดแล้วล่ะ 5555
advertisement
advertisement
จะบอกว่ามะละกอในแปลงเล็ก ๆ เช่น 4-5 ไร่ นี้ทำง่าย ไม่ยากคับ แต่พออัพสเกลมาเป็นระดับ 40-50 ไร่ อันนี้เรื่องใหญ่แล้วคับ ต้องมีการวางระบบ บริหารการจัดการ จะให้น้ำยังไง พ่นยายังไง เก็บผลผลิตยังไง ต้องจบในกระดาษก่อน ถ้าปลูก ๆ ไปก่อนแล้วมาคิดทีหลังนี้ชีวิตลำบาก ระยะชิดไปรถเข้าไม่ได้ พ่นยาไม่ได้ ต้องลากสาย หรือ แบกเป้ ใหม่ ๆ ก็สนุก พอทำไปสักระยะจะเริ่มเหนื่อยและท้อ ทุกแปลงผมออกแบบให้รถ แอร์บลาส เข้าพ่นยา แปลง 10-12 ไร่ ใช้คนพ่นยา 1 คน ระยะเวลา 2-3 ชั่วโมงเสร็จ แต่ถ้าลากสายแบกเป้ อาจต้องใช้คน 2-3 คน ทำงานทั้งวัน อยู่ที่ระดับความสูงของมะละกอด้วย
advertisement
ระบบน้ำ อันนี้ก้อสำคัญ เพราะต้องให้น้ำทุกวัน แปลงที่ไม่ใหญ่ 10-12 ไร่ ก้อทำระบบ auto ได้ ให้มันเปิดเอง ส่วนแปลงใหญ่ ๆ 30-40 ไร่ อันนั้นเมนต้องใหญ่ ต้องเป็นแมนนวล หลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับระบบน้ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยแรกเลย ในการประสบความสำเร็จ
advertisement
การเก็บผลผลิต บางแปลงวางระบบท่อลอย รถเข้าไม่ได้ ไม่งั้นจะเหยียบท่อแตก ต้องแบก ต้องขน กันมาหัวแปลง หรือ ท้ายแปลง ทำให้เหนื่อยทุกทีเวลาจะได้เงิน ถ้าเอารถเข้าได้ทุกร่อง ก้อขนสบาย ถึงได้บอกการวางระบบการจัดการแปลงนั้นสำคัญ
advertisement
การใช้ปุ๋ยและยาก้อสำคัญ แปลงเล็ก ๆ 4-5 ไร่ ใช้ปุ๋ย หรือ ยาอะไรก้อได้ แต่กับแปลงใหญ่ ๆ 40-50 ไร่ มันคิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นต้นทุนทั้งหมด เช่น ยาไรแดง แปลงเล็ก ๆ ซื้อ โอเบรอนมาฉีดก้อจบ แต่แปลงใหญ่ ๆ ถ้าไปใช้ยาแพง ๆ นี้ หมดตูด ต้องใช้ยาพื้น ๆ อาศัย สลับกลุ่มยาเอา ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องใช้ประสบการณ์หน่อย
advertisement
ถึงได้บอก ปลูก 4-5 ไร่ ปลูก ๆ ไปเถอะ อย่าไปเครียดเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ พอแปลงแรกอะไรที่ทำแล้วลำบากเดี๋ยวเราจะจำเอง แล้วไปแก้ไขในแปลงต่อไป (ถ้าไม่เข็ดอ่ะนะ) 555
สุดท้ายคือให้เลือกพันธุ์ที่ตลาดต้องการเท่านั้น กินสุกต้อง ฮอนแลนด์ กินดิบ ต้องแขกนวล เพราะตลาดใหญ่รับเฉพาะสายพันธุ์นี้ พวกแปลก ๆ เช่น เรดเลดี้ ฮาวาย แขกดำ ครั่ง หรือ อื่น ๆ มันมีตลาดเฉพาะ ซึ่งตลาดไม่ได้ใหญ่ พ่อค้าที่ซื้อก้อน้อย ทุกอย่างปลูกมาต้องลงทุนเหมือนกันหมด แต่เวลาขาย ขายได้ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เลือกพันธุ์ที่จะปลูกให้ดี ฮอนแลนด์ หรือ แขกนวล ทั้งคู่ดีคนละแบบ แต่ถ้ามือใหม่ แนะนำ แขกนวล เพราะดูแลง่ายกว่า ไม่มีปัญหาเหมือนฮอนแลนด์ ขนาดลูกไม่ได้ ทรงไม่ได้ สีไม่ได้ ผิวไม่ได้ หวานไม่ได้ เก็บเป็นรอย เชื้อราลงลูก บลา ๆ ๆๆ ยากกว่าแขกนวล ลงทุนมากกว่า แต่ผลตอบแทนดีกว่า ได้เงินทุก 3-4 วัน (แขกนวล 12-15 วัน) ร่ายซะยาว ปกติไม่ค่อยได้โพสในกลุ่มนี้นะคับ แต่เห็นหลายคนจะหลงทาง เลยเตือน ๆ กันไว้คับ
advertisement
–
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
–
advertisement
เป็นการทำสวนขนาดพื้นที่หลายไร่ที่ต้องบอกเลยว่ามีการจัดการที่ดีมากๆ เลยทีเดียว ใครที่จะทำสวน ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เรื่องการจัดการระบบให้ดี
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก พ่อ น้องออร์แกน