น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง!
advertisement
น้ำขิงมะนาว เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าจากพลังสมุนไพร และยังมีรสเปรี้ยวอมเผ็ดที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นตื่นตัวให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ใครที่อาการหวัดเริ่มถามหาแล้ว ลองดูเมนูเครื่องดื่มสุดเฮลตี้ที่เราเอามาฝากกันหน่อยดีกว่า นั่นคือ น้ำขิงมะนาว ซึ่งน้ำขิงมะนาวไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัดแล้ว ยังทำให้เราเบิร์นไขมันหน้าท้องได้ง่ายขึ้นด้วย แต่ประโยชน์ของน้ำขิงมะนาวยังไม่หมดเพียงแค่นี้ จะมีอะไรบ้าง ต้องลองอ่านกันดูจ้า
น้ำขิงมะนาวดีต่อร่างกายอย่างไร
น้ำขิงมะนาว ฟังชื่ออาจเป็นเพียงแค่เครื่องดื่มสมุนไพรธรรมดา ๆ แต่รู้กันหรือไม่ว่า การจิบน้ำขิงมะนาวเป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยให้เราป่วยยากขึ้น เพราะในเหง้าขิงสดมีสารจินเจอรอล ที่มีคุณสมบัติยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย และยังมีรสเผ็ดร้อนที่ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารของเราด้วย
ส่วนประโยชน์ที่ได้จากผลมะนาวนั้น ประการแรกเลยคือ มีวิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ และยังมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเรา ดังนั้น หากเรานำคุณประโยชน์ที่ได้จากขิงและมะนาวมารวมอยู่ในเมนูเครื่องดื่ม น้ำขิงมะนาว ก็เท่ากับว่าเราสามารถป้องกันตัวเองจากโรคเสื่อมต่าง ๆ ได้หลายชนิดเลยทีเดียว ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน (Stroke) และโรคหัวใจ เป็นต้น [ads]
advertisement
10 ประโยชน์ดี ๆ ที่หาได้จากน้ำขิงมะนาว
น้ำขิงมะนาวรสชาติเปรี้ยวอมเผ็ดจะมีดีต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้างนะ มาอ่านกันเลย
1. ช่วยดีท็อกซ์สารพิษตกค้างในร่างกาย
การจิบน้ำขิงมะนาวเป็นประจำทุกเช้าจะช่วยให้ร่างกายได้ดีท็อกซ์ของเสียที่ตกค้างอยู่ในตับ และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนน้ำเหลืองทำงานเป็นปกติอีกด้วย
advertisement
2. บรรเทาอาการเจ็บคอ
ใครที่มีอาชีพที่ต้องใช้เสียงมากในการทำงาน ทำให้มักมีอาการเจ็บคออยู่บ่อย ๆ เราขอแนะนำให้จิบน้ำขิงมะนาวดู เพราะจากข้อมูลของ Encyclopedia of Herbal Medicine แนะนำมาว่า น้ำขิงมะนาวมีคุณสมบัติบรรเทาอาการเจ็บคอ ด้วยพลังจากผลมะนาวที่มีรสขมหน่อย ๆ จะช่วยให้ร่างกายกระตุ้นน้ำลายออกมามากขึ้น นอกจากนี้แล้วยังได้รับประโยชน์จากขิงที่ช่วยลดการติดเชื้อในลำคอของเรา ทำให้อาการเจ็บคอดีขึ้น [ads2]
3. ชะลอความเสื่อมของเซลล์
ประโยชน์ในน้ำขิงมะนาวนั้น นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังอุดมด้วยวิตามินซีและบี ที่ช่วยป้องกันเซลล์ผิวถูกทำร้าย มีแร่ธาตุสำคัญเช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูก กระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และยังบำรุงต่อมหมวกไตอีกด้วย
advertisement
4. ช่วยย่อยอาหาร
สำหรับใครที่ชอบมีอาการอาหารไม่ย่อยเป็นประจำ ขอแนะนำให้ลองจิบน้ำขิงมะนาวในตอนเช้าดู เพราะน้ำขิงมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น เวลากินอาหารในมื้ออื่น ๆ เราจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดท้อง และมีอาการท้องอืด
5. ช่วยลดน้ำหนัก
จากผลการวิจัยในวารสาร Clinical Biochemistry and Nutrition จากประเทศญี่ปุ่น เผยว่า การจิบน้ำขิงมะนาวอย่างน้อยวันละครั้งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ Acyl-CoA oxidase ออกมามากขึ้น ดึงเอาไขมันที่ถูกสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงาน โดยไขมันที่ถูกเบิร์นนั้นจะถูกร่างกายขับออกในรูปของปัสสาวะ [ads3]
6. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
ใครที่มีผิวพรรณไม่ค่อยเปล่งปลั่งสดใส ลองจิบน้ำขิงมะนาวแทนเครื่องดื่มพวกชา กาแฟดูนะคะ เพราะในน้ำขิงมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำร้าย และยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอีกด้วย
advertisement
7. บรรเทาอาการหวัด
น้ำขิงมะนาวช่วยป้องกันโรคหวัดได้ เพราะคุณค่าจากมะนาวที่มีวิตามินซีสูง ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจของเรา รวมถึงความเผ็ดร้อนของขิงที่จะช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากขึ้น เป็นการบรรเทาอุณหภูมิความร้อนในร่างกายให้ลงต่ำลง หากจิบน้ำขิงมะนาวอุ่น ๆ เป็นประจำทุกวันก็จะช่วยให้อาการหวัดดีขึ้น
8. เพิ่มความสดชื่นตื่นตัว
ขิงเป็นสมุนไพรรสเผ็ดร้อนที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวได้ คล้ายกับสารคาเฟอีนในกาแฟ ดังนั้น หากเช้าวันไหนรู้สึกตื่นมาแล้วไม่สดชื่น ก็ลองชงน้ำขิงมะนาวเพิ่มพลังดูนะคะ
9. เพิ่มการเผาผลาญไขมัน
น้ำขิงมะนาวช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้สูงถึงร้อยละ 20 เพราะรสชาติเผ็ดร้อนของขิงนั้นช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ถึงร้อยละ 5 น้ำขิงมะนาว จึงเหมาะกับคนที่มีเวลาออกกำลังกายน้อย แต่อยากให้พุงยุงเร็ว
advertisement
10. ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
หลังการออกกำลังกายเสร็จแล้ว หากไม่อยากให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าจากการออกแรงบริหารกาย ลองจิบน้ำขิงมะนาวอุ่น ๆ สักแก้วดู จะช่วยคืนความสดชื่นให้ร่างกายหลังเสียเหงื่อ กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี กล้ามเนื้อของเราก็จะฟื้นตัวจากการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook.com