ส้ม..ผลไม้อร่อยมากคุณค่าดีต่อสุขภาพ!!
advertisement
“ส้ม” ผลไม้ตระกูล Citrus รสชาติเปรี้ยวหวาน อร่อย อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ ที่โดดเด่นที่สุดคือ ให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โปแตสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราและขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่รักสวยรังงาม เพราะสารอาหารในส้มนั้นบำรุงร่างกายให้สุขภาพที่ดีภายใน เปล่งประกายสวยสดใสสู่ภายนอก
[ads]
“ส้ม” ลักษณะเด่นที่แตกต่าง
ส้มในบ้านเรามีหลายชนิด ทั้งส้มให้ความเปรี้ยวและส้มให้ความหวาน แต่ละชนิดจะให้คุณค่าทางสารอาหารไม่ต่างกันมากนัก แต่ก็มีลักษณะเด่นและการนำไปใช้แตกต่างกันไป อาทิเช่น
– ส้มเขียวหวาน มีเนื้อหวานฉ่ำ เหมาะสำหรับกินสดๆ หรือคั้นดื่ม เพราะเปลือกบางทำให้คั้นได้ง่าย
– ส้มซันคิสต์ มีรสชาติอร่อยเข้มข้น เปลือกมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำทั้งน้ำและเปลือกมาทำขนม ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ เค้ก หรือแยม
– ส้มจุก มีรสชาติและสีใกล้เคียงกับส้มเช้ง คือ หวานอ่อนๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือคนที่ต้องการลดน้ำหนักค่ะ
– ส้มโอ เป็นส้มที่สามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาว เช่น ยำส้มโอ ใส่ในข้าวยำน้ำบูดู ใส่ในสลัด หรือทำอาหารหวาน เช่น ส้มโอลอยแก้ว ส่วนเปลือกของส้มโอที่มีสีขาวนุ่ม รสชาติขมๆ อยู่ติดกับเปลือก ยังสามารถนำมาเชื่อมได้อีกค่ะ
– ส้มจี๊ด คนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมกินเพราะเปรี้ยวมาก แต่คนจีนนิยมกินโดยเฉพาะนำมาคั้นทำน้ำส้ม หรือนำมาอบแห้งค่ะ
– ส้มจีน เป็นส้มที่กินสด หรือนิยมนำมาไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เพราะคำว่าส้มในภาษาจีนจะฟังเหมือนคำว่าทอง และสีก็เหมือนทองด้วย จึงถือเป็นผลไม้มงคลสำหรับชาวจีนค่ะ
– เลมอน เป็นส้มที่มีรสชาติคล้ายมะนาว แต่จะมีรสหวานนิดๆ ส่วนใหญ่เป็นส้มที่ชาวต่างชาตินิยมนำมาทำอาหารแทนมะนาว เพราะไม่มีมะนาว หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มในฤดูร้อน เพราะต่างประเทศไม่มีมะนาวนั่นเองค่ะ
– มะนาว เป็นหนึ่งในตระกูลส้มที่ให้ความเปรี้ยวมากที่สุด จึงนำมาปรุงอาหารได้สารพัด เช่น ต้มยำ ยำต่างๆ น้ำพริก รวมทั้งเป็นส่วนผสมในน้ำสลัด ฯลฯ
– มะกรูด เป็นหนึ่งในตระกูลส้มชนิดเดียวที่ไม่ได้นำน้ำหรือความเปรี้ยวมาปรุงอาหาร เพราะคนส่วนใหญ่จะนำกลิ่นหอมจากเปลือกมะกรูดมาใช้มากกว่า เช่น ใส่ในแกงมัสมั่น แกงเทโพ หรือทำหน้าหมี่กรอบ ส่วนน้ำมะกรูดนำมาทำเป็นยาสระผมได้ค่ะ
สารอาหารสำคัญในส้ม : ผลส้มสด 100 กรัม จะมีเบต้าแคโรทีน 82 ไมโครกรัม และวิตามินซี 50 มิลลิกรัม โดยส้ม 1 ผลส้มโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 140 กรัม ก็เท่ากับว่าส้ม 1 ลูกมีวิตามินซี 70 mg. และมีเบต้าแคโรทีน 115 mcg.
1. ส้มเป็นผลไม้ที่มีสารไฟโตนิวเทรียนต์มาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ สารแอนโธไชยานิน สารโพลีฟีนอล และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น
2. วิตามินซีในส้ม สารต้านอนุมูลอิสระ สารสำคัญที่ช่วยป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้ป่วยบ่อยป้องกันและรักษาไข้หวัด ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย
3. ให้แคลเซียมและวิตามินดี แก่ร่างกาย แคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย
4. เปลือกของส้มกินได้ค่ะ มีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้จากการศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
5. ตำรับจีนมักเสิร์ฟเปลือกส้ม คู่กับอาหารเนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ
6. ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอ มีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา ซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และจากการศึกษายังพบว่า การบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง
7. ส้ม จะทานก็ได้ จะดมผิวก็ได้ เพราะส้มมีสารโฟเลตซึ่งช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มสามารถทำให้เบิกบานได้
8. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งไปกว่านั้นส้มยังช่วยป้องกันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย
9. สารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมายในส้ม เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการชะลอวัย มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ ทั้งยังช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน
10. ช่วยในการขับถ่าย เพราะส้มมีกากใยสูง ยิ่งเส้นใยสีขาวๆ ที่อยู่นอกส้มนั้นมีประโยชน์สูงมาก เส้นใยที่มีคุณภาพ แถมยังช่วยให้กินแล้วอิ่มง่ายอีกด้วย แคลลอรี่ต่ำ เหมาะแก่การลดความอ้วนอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วกินส้มไม่ต้องดึงเส้นใยสีขาวทิ้งนะคะ
ประโยชน์ของเปลือกส้ม
– เปลือกส้มจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ
– เปลือกส้ม มีสารช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกรองสารพิษในตับได้ด้วย
– การเสิร์ฟเปลือกส้มคู่กับอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ จะช่วยในการย่อยอาหารที่มีไขมันสูงได้
– เปลือกส้มมีฤทธิ์ในการช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้
– เปลือกส้มที่แห้งแล้วเมื่อนำไปจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการไล่ยุง
– น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้ม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ดี
ส้มมีประโยชน์สำหรับเด็กเล็ก
เด็กเล็กที่มีอายุหลัง 6 เดือนขึ้นไปสามารถกินส้มได้ โดยเริ่มจากนำส้มมาคันเอาน้ำ ผสมน้ำต้มสุกในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากส้มจะมีรสชาติเข้มข้น การให้น้ำส้มเด็กโดยไม่ผสมอะไรเลย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบดูดซึมของเด็กเล็กได้ค่ะ เมื่อเด็กโตขึ้นจึงค่อยๆ ลดปริมาณน้ำลง จนถึงอายุ 5 ขวบ แล้วจึงค่อยให้น้ำส้มอย่างเดียว เนื่องจากน้ำส้มมีรสหวานมาก การผสมน้ำจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เด็กเล็กไม่ติดหวานตั้งแต่ตัวน้อยๆ ค่ะ
สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตและเบาหวาน ถ้าคิดจะกินส้ม ควรกินด้วยความระมัดระวังค่ะ เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ให้โปแตสเซียมและน้ำตาลสูง แนะนำให้กินทั้งผลเพราะจะมีกากใยดีกว่าเป็นน้ำส้มคั้น เพราะน้ำส้มคั้น 1 แก้วต้องใช้ส้มหลายผล
[yengo]
วิธีการเลือกซื้อส้ม
การเลือกซื้อส้มที่มีรสหวาน รสชาติอร่อยนั้น ควรเลือกที่มีผิวเรียบเนียน เปลือกบาง เช่นเดียวกับมะนาวที่ผิวเรียบเนียน เปลือกบางก็จะให้น้ำเยอะ ถ้าเป็นส้มเขียวหวานก็จะหวานมาก
ประโยชน์มากมายของส้มนั้น ส่งผลต่อร่างกายอย่างแท้จริงเลยนะคะ สังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเมื่อทานส้มแล้ว ช่วยเพิ่มความสดชื่น รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ทันทีเลยทีเดียว อีกทั้งช่วยลดความเครียดได้ดี ส้มเป็นผลไม้ที่มีให้เราเลือกรับประทานได้ตลอดทั้งปี ยิ่งเป็นช่วงฤดูกาลของส้มยิ่งไม่ควรพลาดกันเลยนะคะ เพราะจะยิ่งมีราคาถูกมากยิ่งขึ้นอีก
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com