หมอยง เผยพลาสม่าจากคนที่หายจากโรค มีภูมิต้านทานใช้ต้านไวรัสได้
advertisement
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ "การใช้พลาสม่าผู้ที่หายจากโรค มารักษา"
advertisement
ซึ่งโรคนี้เป็นโรคใหม่ที่เกิดจากไวรัส จึงไม่มียารักษาจำเพาะ มีการยืมยารักษามาลาเรีย รักษาHIV และไข้หวัดใหญ่ มาใช้
โดยใช้หลักการทางทฤษฎี จึงยังไม่มียา ที่เป็นยาจำเพาะในการรักษา มีการใช้ Remdesivir ที่เป็นยาพัฒนาใหม่อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย และมีข่าวออกมาว่าการรักษาได้ผลดี ทำให้หุ้นขึ้น อย่างไรก็ตามยานี้อยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย อย่างเป็นระบบในหลายๆประเทศ ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในประเทศใด เพราะเป็นยาใหม่ ต้องให้เข้าเส้นเลือด และใช้ระยะเวลารักษา 10 วัน คงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง[ads]
หลายประเทศทั่วโลก มีการใช้ Plasma ผู้หายจากโรค เป็นยาที่ได้จากธรรมชาติ มีการรายงานผลการศึกษา ในวารสารทางวิชาการมากขึ้นเรื่อยๆ เตรียมการผลิต โดยธนาคารเลือด ที่มีขั้นตอนตามระบบความปลอดภัยของการให้เลือด และพลาสมาในยามปกติอยู่แล้ว "พลาสม่าผู้ที่หายจากโรคแล้วจะมีภูมิต้านทานที่จะใช้ ต้านไวรัสได้" ขณะนี้อยากจะเชิญชวน ให้ผู้ที่หายจากโรคแล้ว อย่างน้อย 14 วัน ต้องการจะช่วยเพื่อนที่ป่วย ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติทางออนไลน์ เพื่อที่ทางศูนย์จะนัดแนะ มาตรวจกรอง ว่าไม่มีเชื้อ ทั้งในทางเดินหายใจและในโลหิต รวมทั้งตรวจระดับของภูมิต้านทานในโลหิต แล้วจึงนัดแนะให้มาบริจาค Plasma เพื่อเก็บเอาไว้ พร้อมที่จะ นำไปรักษาผู้ป่วย
advertisement
ผู้ป่วยที่จะใช้ได้จะต้องมีการเปรียบเทียบกลุ่มเลือด ตามกฎเกณฑ์ผู้ที่จะบริจาคจะต้องมีน้ำหนักตัวมากกว่า 50 กิโลกรัม อายุระหว่าง 17 ถึง 65 ปี "ท่านที่หายจากโรคแล้วจะได้มีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนของท่านที่กำลังป่วยอยู่ คนไทยเราจะไม่ทิ้งกัน"
จากความคิดเห็น
advertisement
รักษาหายแน่
advertisement
โดยจากโพสต์นี้ก็มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย พร้อมบอกว่าตอนนี้ยังไม่มียารักษา แต่หากพลาสม่าจากผู้ป่วยที่หายแล้วก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางช่วยเหลืออยู่เช่นกัน
ขอขอบคุณที่มาจาก : Yong Poovorawan