เตือนภัย กินยาคุมกำเนิดมากกว่า 5 ปีเสี่ยงมะเร็งเต้านม-เนื้องอกในตับ
advertisement
เมื่อวันที่ วันที่ 18 ต.ค. เพจเฟซบุ๊ก Umaad Aegem โพสต์ เตือนภัยจากยาเม็ดคุมกำเนิด การใช้ยาเมิดคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานานๆ (มากกว่า 5 ปี) นอกจากจะเสี่ยงกับมะเร็งเต้านมแล้ว ยังเสี่ยงกับการเกิดเนื้องอกในตับ (Hepatic Adenoma) ซึ่งสามารถกลายไปเป็นมะเร็งตับได้ (Hepatocellular Carcinoma)
advertisement
ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้หญิงอายุ 38 ปี ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดมามากกว่า 10 ปี หยุดการใช้ยาไปแล้วปีกว่าๆ มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ทำ CT scan พบเนื้องอกในตับ ขนาด 7 ซม. รักษาโดยการผ่าตัดตับบางส่วนโดยวิธีผ่าตัดผ่านกล้อง ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 3 ชม. ครึ่ง เสียเลือดประมาณ 100 cc
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก สูตินรีแพทย์ สรุป ยาคุมแบบเก่าแบบระดับฮอร์โมนสูง เพิ่ม risk ยาคุมแบบใหม่ระดับฮอร์โมนต่ำ กินได้เกิน 5 ปี และช่วยลด risk การเกิด มะเร็งรังไข่ (ca ovary), มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (ca endometrium) คนที่มี ก้อนที่เต้านม (breast mass) , มะเร็งเต้านม (ca breast) ไม่แนะนำ ให้ปรึกษาแพทย์
advertisement
คุณหมอโพสต์เพิ่มเติมว่า ยาคุมกำเนิด ใช้ติดต่อกันนานเกิน 5 ปี อ้างอิงตาม evidence ของ WHI ที่เก็บจำนวนคนไข้เยอะสุดประมาณล้านกว่าคน พบว่า เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมนะคะ แต่เป็นข้อมูลที่ศึกษาในอดีต ที่ฮอร์โมนในยาคุมยังค่อนข้างมีระดับฮอร์โมนสูง แต่ยาคุมแบบใหม่ๆในปัจจุบันเป็นยาคุมระดับฮอร์โมนต่ำ ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยง อย่างไรก็ตามถ้าคนไข้เป็นมะเร็งเต้านมอยู่เดิม ไม่แนะนำให้ใช้ฮอร์โมนนะคะ มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้สูง
นอกจากนี้ยาคุมยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งรังไข่ และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกด้วยค่ะ ปอลอ ดังนั้นการใช้ ข้อดีข้อเสีย ปรึกษาหมอดูก่อนก็ได้จะได้ชั่ง risk benefit ส่วนยาฉีดคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนตัวเดียว มีบางเปเปอร์ รายงานว่าพบ risk ca breast (มะเร็งเต้านม) แต่ข้อมูลยังค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่เป็น observation study ความน่าเชื่อถือไม่มากค่ะ
advertisement
สรุปข้อมูลยังไม่ชัดเจนในกลุ่มยาฉีด ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด ถ้าจะใช้ปรึกษาคุณหมอใกล้บ้านคุยรายละเอียดก่อน จะดีที่สุดค่า. ปอลอ ตอบยาวมาก เรื่องยาคุมต้องคุยกันแบบ face to face ดีกว่าพิมพ์
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มา : Umaad Aegem