ไอเดียเมนูคลีนแบบสายกลาง ไม่ต้องชั่งตวง ไม่ต้องนับแคล
advertisement
ในช่วงนี้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น อาจจะด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดูจะเป็นภัยกับการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้คนจึงดูแลสุขภาพด้วยวิธีต่างๆ อาทิ การออกกำลังกาย ออกควบคุมการรับประทานอาหาร เป็นต้น
และสำหรับคนที่รักสุขภาพ หลายๆคนก็เลือกที่จะรับประทานอาหารคลีน แต่เมนูอาหารคลีนที่เรารู้จักก็คงจะคิดถึงแต่ผักต้ม ปลานึ่ง ซึ่งกินนานๆก็คงจะเบื่อ วันนี้เราจึงมีเมนูอาหารคลีนที่น่าสนใจแบบไม่น่าเบื่อมาฝากกันค่ะ
advertisement
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Saijai Setto ได้มาแบ่งปันเมนูอาหารคลีนแบบสายกลาง ไม่ต้องเคร่งถึงขั้นชั่งตวงหรือนับแคล แต่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน โดยได้ระบุว่า
advertisement
“เเบ่งปันเมนู คลีนสายกลางค่ะ จาก67 เหลือ50-52 ก.ก (ไม่นับเเคล ไม่ชั่งข้าว) #ลดน้ำหนักเริ่มต้นในครัว”
advertisement
เพราะการจะควบคุมอาหาร ต้องเน้นการรับประทานโปรตีนและลดไขมัน จึงเน้นไปในการใช้อกไก่ ไข่ไก่ และลดการใช้น้ำมันประกอบอาหาร
คะน้าผัดอกไก่เห็ดหอม
advertisement
ผัดผักกุ้ง
advertisement
ผลไม้ ของว่าง เเบ่งทานค่ะ
advertisement
อกไก่ผักฝักทอง+บะหมี่ผัก
advertisement
ข่าไก่(อกไก่) ใช้นมจืดเเทนกะทิ

อกไก่ต้มบะหมี่ผัด ราดน้ำจิ้มสุกี้คลีน น้ำจิ้ม ลดโซเดียม
advertisement
บล็อกโคลี่ผัดอกไก่

โยเกิร์ตธัญพืชกราโนล่า+ผลไม้ กราโนล่า
advertisement
ข้าวไรซ์เบอร์รี่+ปลาซาบะย่าง

อกไก่ผัดผัก3สี
advertisement
ข้าวเต้าหู้ย่าง+ไข่ดาวเละ

ข้าวไก่ย่าง+ปลาซาบะย่างซอส

ดอกหอมผัดไข่

หมูผัดกะเพรา ใช้สันในหมู

ข้าวผัดไข่ อกไก่นุ่ม

มื้อว่างเเสนฟิน เปี๊ยะคลีนๆ

มื้อว่างเเสนฟิน เปี๊ยะคลีนๆ

ข้าว ปลาซาบะย่างเกลือ

เเตงกวาผัดไข่

อกไก่ผัดบวม

ใบตำลึงผักไข่+อกไก่ต้มฉีก

เเพนเค้กข้าวโอ๊ต+โยเกิร์ตบัลแกเรียสีน้ำเงิน

ไข่ดาวมาพร้อมไข่คน+พายทูน่า7-11

เเพนเค้กข้าวโอ๊ต +ไข่ดาวเยิ้มๆ

อกไก่ผัดซอส+คะน้าต้ม

เเพนเค้กข้าวโอ๊ต (กินเเทนขนมได้เลยนะ) + ไข่คน

ของหวานที่ชอบที่สุดในโลก ตั้งชื่อไม่ได้อร่อยเกิน
-นึ่งฝักทองให้สุก
-เทนมวีซอย กล่องเหลืองใส่ นมตัวนี้หอมมาก
-ตามด้วยน้ำเชื่อมหญ้าหวาน คนให้เข้ากัน
-นำเเช่ตู้เย็นคืออร่อยมาก
ถึงน่าตาจะไม่สวยเเต่รับรองความอร่อยบอกเลย

แต่ละเมนู ก็มีหน้าตาชวนรับประทานไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ใครที่ทานอาหารคลีน แต่คิดเมนูไม่ออก และไม่ได้เคร่งมาก ก็คงจะมีแนวทางมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : Saijai Settho