กรดไขมันโอเมก้า 3 ประโยชน์น่ารู้!!
advertisement
หลายๆ คนทราบว่ากรดโอเมก้า 3 คือกรดไขมันอย่างหนึ่งและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วโอเมก้า 3 ไม่ใช่แค่มีประโยชน์เท่านั้นนะคะ แต่เรียกได้ว่ามีความสำคัญและจำเป็น อย่างที่ร่างกายของคนเรานั้นในขนาดที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งถ้าเรารู้จักกับโอเมก้า 3 มากขึ้น เราก็จะได้ทั้งความรู้ สุขภาพที่ดีและความสวยเพิ่มขึ้น อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยคะว่า โอเมก้า 3 นั้น ทำให้สุขภาพดี และสวยขึ้นได้ด้วย ซึ่งวันนี้ Kaijeaw.com มีคำตอบค่ะ
น้ำมันปลาเริ่มเป็นที่สนใจมาได้ประมาณ 30 ปีมาแล้ว โดยมีข้อมูลว่าชาวเอสกิโม ที่มักจะกินปลาในปริมาณสูง จะมีปัญหาเส้นเลือดอุดตันน้อย ระดับไขมันในเลือดต่ำ และการเกาะตัวของเกล็ดเลือดน้อยกว่าชาวเมืองในบางประเทศซึ่งกิน เนื้อสัตว์มากกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชาวประมง ที่กินปลาได้ในปริมาณมาก จะมีโรคหลอดเลือดหัวใจ การเกาะตัวของเกล็ดเลือดและความหนืดของเลือดน้อยกว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงสัตว์
กลุ่มกรดไขมันที่เรียกว่า “โอเมก้า 3” คือ ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เป็นไขมันจำเป็นต่อร่างกาย จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เพราะร่างกายคนเราสร้างขึ้นเองไม่ได้ สารอาหารที่สำคัญมี 2 ชนิด คือ EPA และ DHA ปลาทะเลน้ำลึกที่ให้สารอาหารโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า ปลาในอ่าวไทย ที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาทู และที่มีในปริมาณน้อย ถึงปานกลาง ได้แก่ ปลาอีกา ปลากะพง ปลาตาเดียว ส่วน ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ จะพอมีโอเมก้า 3 บ้าง ซึ่งมากกว่าปลาน้ำจืดอื่นๆ
คุณสมบัติที่สำคัญของ EPA และ DHA
EPA – (Eicosapentaenoic acid) เรียกได้ว่าเป็นสารต่อต้านการอักเสบอันทรงพลัง (Powerful Anti-inflammation) มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวในเรื่องของการช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ รวมถึงภาวะสิวอักเสบ และปกป้องผิวจากการแผดเผาของรังสียูวีในแสงแดด
DHA – (Docosahexaenoic acid) เรียกกันว่ากรดไขมันของสมอง ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของสมอง การเรียนรู้ ความจำ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังส่งผลต่อสุขภาพผิวพรรณที่ผุดผ่องสดใส ชุ่มชื้นขึ้นจากการบำรุงอันล้ำลึกจากภายใน[ads][fb1]
ประโยชน์ของ Omega-3
1. ช่วยในการทำงานของระบบในร่างกายกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็น แต่ไม่สามารถสร้างเองได้ภายในร่างกาย ดังนั้นจำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น และแทบทุกระบบการทำงานภายในร่างกาย จำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์จากกรดไขมันจำเป็น ทั้งนั้น เช่น
– ระบบหลอดเลือดหัวใจ (ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอล ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน และ โรคอัมพาต)
– ระบบประสาท (ช่วยเพิ่มความจำ)
– สายตา (ช่วยในการมองเห็น)
– ระบบภูมิคุ้มกัน (ลดอาการภูมิแพ้)
– ระบบไหลเวียนโลหิต
– ระบบสืบพันธุ์
– ระบบข้อกระดูก
2. บำรุงผิวพรรณให้สวยสุขภาพดี กรดไขมัน Omega-3 มีคุณสมบัติ ต่อต้านการอักเสบ (ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ) และที่สำคัญที่สุด กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยให้ผิวเปล่งประกายและสุขภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าไปสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยคงความชุ่มชื้นและแข็งแรง ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน จึงส่งผลให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์และสดใส ทั้งนี้หากรับประทานร่วมกับ วิตามินเอ ดี และอี จะยิ่งช่วยปกป้องการเกิดสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหัวขาวและหัวดำ
advertisement
3. ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดในปัจจุบัน น้ำมันปลาถูกนำมาใช้ในการช่วย ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด โดยที่กรดไขมันโอเมก้า-3 จะเข้าไปอยู่เป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ ของเกล็ดเลือดเม็ดเลือดแดง ตับ และอื่นๆ อีก ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ หัวใจพิบัติ และความดันสูง โดยการลดการแข็งตัวของเลือด ลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดทำให้หลอดเลือดที่หัวใจเป็นปกติ ลดอัตราการเกิดโรคความดันโลหิตสูง สร้างสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัวได้ดี
4. ใช้เพื่อลดน้ำหนัก กำจัดไขมัน และคอเลสเตอรอล ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ จะช่วยลดการดูดซึมไขมันอิ่มตัวที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับไขมันที่ไม่ดีน้อยลง รวมทั้งสามารถกำจัดไขมันที่ไม่ดีในร่างกายออกไปด้วย
5. รักษาโรคผิวหนัง บำรุงผิวพรรณบำรุงเส้นผม เช่นโรค สะเก็ดเงิน บำรุงเส้นผมโดยรักษาอาการแห้งเสียแตกปลาย รังแค บำรุงเล็บเพราะโอเมก้า สามารถรักษาโครงสร้างของเซลล์และทำหน้าที่เยื่อบุเซลล์ให้มีสุขภาพดี ป้องกันการสูญเสียความชื้นจากผิวหนัง ควบคุมการผลัดเซลล์หนังศีรษะซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดรังแค รวมทั้งสามารถป้องกันและรักษาผิวไหม้จากแสงแดด โดยจะช่วยลดความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต ฟื้นฟูสภาพผิว ลดการอักเสบผิว บรรเทาอาการคันและผื่นของผิวหนังโดยการเป็นสารตั้งต้นของการสร้าง eicosanoids ที่ช่วยลดการอักเสบ
6. บำรุงสายตา สมอง ความจำ ต้านอาการซึมเศร้า ป้องกันระบบประสาทเสื่อม เพราะเป็นกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ประสาท สมอง และเรตินา รวมทั้งจัดเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองของเด็กทารก และยังช่วยควบคุมการทำงานของสมองในผู้ใหญ่ เนื่องจากดีเอชเอไปมีผลกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทที่ถูกทำลายไป ส่วนอีพีเอช่วยลดการแข็งตัวของเยื้อหุ้มเม็ดเลือดแดง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น
advertisement
7. รักษาอาการที่เกี่ยวกับการมีประจำเดือน ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดบวมข้ออักเสบรูมาตอยด์ ลดอาการปวดหลัง จากการวิจัยพบว่าโอเมก้าในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้ ผู้ป่วยสามารถลดการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเทียรอยด์ลงได้
8. Omega 3 มีประโยชน์ต่อสตรีมีครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA ในโอเมก้า3 มีความสำคัญในการพัฒนาและการทำหน้าที่ของระบบประสาท ระบบสายตา และระบบสมอง ของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด และในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากคลอดแล้ว ดังนั้น มารดาของทารกที่เสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 จะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับกรดไขมันจำเป็นไปด้วย (ทั้งนี้ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ โดยควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง)
9. ช่วยการเจริญเติบโตของเด็กน้ำมันปลาโอเมก้า 3 มีประโยชน์อย่างมากมายในการช่วยการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ช่วยพัฒนาการทำงานของสมองและจิตใจ เพิ่มสมาธิ ความจำระยะสั้น เสริมทักษะในการอ่าน นอกเหนือจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ ควรจะได้รับปริมาณโอเมก้า 3 ในระดับสมดุลกับอาหารของพวกเขา[yengo][fb2]
advertisement
10. คุณสมบัติป้องกันและรักษาอาการเจ็บป่วยและโรคร้าย
– ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และภาวะเส้นเลือดในสมองแตก
– ลดความหนืดของเกร็ดเลือด และลดปริมาณสารไฟบรินในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด
– ช่วยป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันนับเป็นภัยเงียบที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
– ช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันมะเร็งเต้านม
– ช่วยลดบรรเทาอาการคันและแห้งของโรคสะเก็ดเงิน
– ลดการต้านเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่าย ในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ
– ช่วยในการลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศรีษะเรื้อรังหรือไมเกรน
– บำรุงให้ผิวพรรณ ผม และเล็บมีสุขภาพดี
– ช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง
– ต่อต้านผลร้ายจากสารโพรสตาแกลนดิน (ลดภูมิต้านทานและเพิ่มการเติบโตของเนื้องอก)
– ช่วยบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์
advertisement
ข้อควรระวังในการกินโอเมก้า 3
– เนื่องจากน้ำมันปลาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้นการกินปลาในปริมาณมากต่อเนื่องกัน หรือกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา จะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดออกหยุดยากโดยเฉพาะหากกินร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพรินหรือโคลพิโดเกรล
– หากกินปลาทะเลมากกว่า 8 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยากแล้ว ยังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลงด้วย
– สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างในการบริโภคปลาทะเลปริมาณมาก คือ การปนเปื้อนโลหะหนัก โดยเฉพาะสารปรอท ดังนั้นหากบริโภคมากเกินไป จะเกิดการสะสมและเป็นพิษได้
– สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นคูมาดินหรือเฮปาริน ไม่ควรรับประทานโอเมก้า3 นอกจากแพทย์แนะนำ
จะเห็นได้ว่ากรดไขมันโอเมกา-3 มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ รวมทั้งเกี่ยวกับเรตินาในการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อโภชนาการและสุขภาพของคนเรา เป็นสารอาหารอีกชนิดที่ขาดไม่ได้เลย และเราควรเอาใจใส่ในการบริโภคให้มากขึ้นเพื่อเมื่อสุขภาพภายในที่ดีจะส่งผลให้สุขภาพภายนอกของเราสวยสดใสตามมาอีกด้วยค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com