ช่างรื้อเครื่องซักผ้า เทียบความต่างถังซักที่ใช้น้ำยากับไม่ใช้

advertisement
น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นอีกหนึ่งของใช้ติดบ้าน สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านเนื่องจากเวลาซักผ้าจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อเพิ่มความหอมนุ่มให้กับเสื้อผ้า ซึ่งความจริงแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นถือว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่มากเช่นกัน
advertisement

โดยล่าสุดคุณ นันทพล นันทพล ได้ออกมาโพสต์แชร์ภาพถังซักที่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับไม่ใช้ ซึ่งถังที่ใช้น้ำยาปรับผ้านั้นมีคราบสีดำเกาะติดเต็มถัง ส่วนถังที่ใช้เฉพาะผงซักฟอกนั้น มีแค่คราบผงซักฟอกเกาะอยู่เท่านั้น
เครื่องซักผ้าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ปีล้างที
advertisement

กับไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม 9 ปีไม่เคยล้าง
advertisement

"ไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเลยค่ะ กลิ่นหอมติดผ้าเกินไปสำหรับภูมิแพ้จมูกอักเสบค่ะ ถ้าอยากได้ความหอมเราจะใช้ fabric regresher ที่กลิ่นอ่อน ๆ ค่ะ"
advertisement

"6 ปี ถอดล้างครั้งแรกครับ ใช้ไฮเตอร์กับเบกกิ้งโซดาล้างถังทุก 3 เดือน สัดส่วนตามนี้ครับ ไฮเตอร์ 1/3 ขวด เบกกิ้งโซดา 4-5 ช้อนโต๊ะ แล้วเปิดโหมดล้างถัง ของเครื่องซักผ้าครับ"
advertisement

"ช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 เยอะ ๆ เช่นช่วงนี้ เราว่างดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็ดีนะคะ โดยเฉพาะถ้าต้องผึ่งผ้าข้างนอก แต่ถ้าใช้เครื่องอบก็ไม่เป็นไรค่ะ"
advertisement

"เลิกใช้ผงซักและปรับผ้านุ่มมานานแล้ว ใช้เป็นน้ำยาซักผ้าอย่างเดียวค่ะ"
advertisement

"แดดแรงๆ หรืออบ ลองใช้น้ำส้มสายชูแทนได้นะคะ สัก 2 ช้อนโต๊ะ ตอนดาวนี่มีเม็ดน้ำหอมขาย เราใส่ลงไปรวมกันเลยในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม"
"เป็นคนหนึ่งที่ไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเลย เพราะไม่ชอบผ้าที่ซักแล้วมีกลิ่นเยอะ ทุกวันนี้แค่กลิ่นน้ำยาซักผ้าก็รู้สึกว่ามันกำลังพอดี หอมอ่อนๆให้รู้ว่าผ้าซักแล้วพอ"
advertisement

เห็นแบบนี้แล้วก็ลองใช้วิจารณญาณดูกันด้วยนะคะ เพราะจริงๆแล้วคุณสมบัติของน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ยังมีเยอะอยู่ แต่ควรใช้ในปริมาณที่พอดี และเลือกสูตรที่เหมาะสมกับเครื่องซักนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : นันทพล นันทพล