10วิธีสุดเด็ด บอกลาอาการขี้หลงขี้ลืมอย่างได้ผล
advertisement
อาการขี้ลืม เป็นได้ในทุกคนทุกเพศและทุกวัย ไม่ใช่เฉพาะในคนแก่ อย่างอาการลืมในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ลืมหยิบกระเป๋าออกมาจากบ้านพอนึกได้ก็ต้องรีบไปเอา ออกจากบ้านนึกได้ว่าลืมปิดทีวี วางสิ่งของไว้ตรงไหนเกิดลืมขึ้นมาดื้อๆ หาไม่เจอซะงั้น และอาการขี้หลงขี้ลืมนี้ก็มักจะสร้างปัญหาไม่มากก็น้อย จนใครหลายคนวิตกกังวลไปเลยทีเดียว แต่ฟังทางนี้ก่อน! ข่าวดีค่ะ อาการแบบนี้แก้ไขได้ Kaijeaw.com มีวิธีสุดเด็ด ช่วยให้คุณบอกลาอาการขี้หลงขี้ลืมอย่างได้ผล ดังนี้
advertisement
1. บริหารสมอง
แตกต่างจากกิจกรรมประจำวัน เช่น เล่นเกมส์ทายปัญหา, คิดหาทางแก้เกมส์, อ่านหนังสือและคิดตาม, เล่นดนตรี อ่านโน๊ตที่หลากหลาย ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้สมองได้ออกกำลัง เพิ่มรอยหยักให้แก่สมอง นอกจากจะความจำดีขึ้น ยังทำให้ฉลาดขึ้นโดยไม่รู้ตัวด้วยนะ
advertisement
2. บริหารร่างกายเป็นประจำ
นั่นก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง นอกจากคุณจะได้เผาผลาญพลังงาน บริหารกล้ามเนื้อร่างกายแข็งแรง ยังเป็นวิธีการที่จะทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีที่สุด
[ads]
advertisement
3. รูปถ่ายช่วยเตือนความจำ
สมองคนเราจำรูปได้ดีกว่าข้อความ ดังนั้น หากมีนัดหมายสำคัญ ลองวาดรูปนาฬิการะบุวัน เวลา และรูปคนที่คุณมีนัดด้วย หรืออย่างพวกสูตรคณิตศาสตร์ต่างๆ ลองเขียนเป็นตัวใหญ่ๆ ทำให้โดดเด่นมีสีสัน แปะไว้ข้างฝาบ้าน มองทุกวัน เราจะจำภาพหรือสูตรนั้นได้โดยอัตโนมัติ
advertisement
4. สร้างกิจวัตรให้กับตัวเอง
การทำซ้ำๆ เหมือนๆกัน ช่วยให้สมองจำได้เองโดยไม่ต้องพยายาม เช่น เมื่อคุณเข้าบ้าน เก็บกุญแจทุกชนิดในที่เดียวกัน ซึ่งอาจติดตั้งตู้เก็บกุญแจในบ้าน เมื่อจำเป็นต้องออกข้างนอก ต้องใช้กุญแจล็อคบ้านหรือกุญแจรถ สมองจะสั่งการโดยอัติโนมัติว่าจะต้องไปหยิบกุญแจที่ไหน
advertisement
5. จัดตารางประจำวัน
หากวันๆ คุณมีเรื่องต้องทำเยอะแยะมากมาย จนบางครั้งบางทีอาจเผลอลืมทำอะไรบางอย่าง ลองจัดตารางเวลาและสิ่งที่คุณต้องทำ ลงในกระดาษที่พกพาสะดวกใส่กระเป๋าเสื้อไป หรือจดลงในมือถือของคุณ ก่อนออกจากบ้าน และอย่าลืมหยิบมาดูทุกครั้งที่เสร็จในแต่ละภาระกิจ
advertisement
6. จดโน้ต
โน้ตบันทึกช่วยจำ เช่นหากคุณต้องไปซื้อของที่จำเป็น ให้คุณจดโน้ตใส่กระเป๋าเงินไปด้วย เมื่อไปถึงร้านค้ารับรองว่าคุณต้องซื้อของได้ครบแน่นอน หรือหากมีหลายสิ่งที่ควรทำ พอนึกได้ก็จดโน๊ตติดแปะไว้ในที่ๆ คุณต้องเห็นเป็นประจำ เช่นที่ประตูตู้เย็นในครัว,บอร์ดช่วยจำที่ติดไว้ตรงทางเดินก่อนออกจากบ้าน หรือในรถ ทุกครั้งที่เห็นโน้ตที่ติดไว้ คือการเตือนสมองให้จดจำเรื่องเหล่านี้แม่นยำขึ้น
advertisement
7. การทบทวน
อย่างในวัยเรียนที่มีปัญหาอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วจำไม่ได้ หรือจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเรียนวิชานี้มาก่อน วัยทำงานที่คุณต้องใช้และจดจำข้อมูลมากมาย ควรมีการทบทวนเนื้อหาเป็นระยะๆ โดยนึกถึงเนื้อหาสำคัญของแต่ละเรื่องพอคร่าวๆ ถ้ารู้ตัวว่าจำได้ไม่ดีก็ให้หาเนื้อหานั้นมาทบทวน
[yengo]
8. อย่าเครียด
เพราะความเครียดมักทำให้สมองต้องไปพะวงนึกคิด จดจ่อกับปัญหานั้นๆ จนไม่มีความสามารถ หรือลดความสามารถที่จะจดจำและนึกคิดถึงสิ่งอื่น
advertisement
9. ฝึกสมาธิ
ได้โดยกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นการกำหนดที่ตั้งของสติ เพื่อให้จิตเราอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่นๆ มีการวิจัย พบว่า เหตุผลที่การทำสมาธินั้นทำให้ความจำดีขึ้นก็เพราะระหว่างการทำสมาธินั้น สมองของคุณจะหยุดการประมวลผลข้อมูลต่างๆ แบบที่เคยทำในวันปกติ นั่นไม่เพียงทำให้สมองของคุณว่าง ยังทำให้ผ่อนคลายความเครียดและจดจำได้มากขึ้นด้วย
10. ทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความจำ
อาหารที่มีคุณค่าและช่วยเพิ่มความจำ เช่น ผัก ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินบีสอง กรดโฟลิค ที่ช่วยป้องกันสมองเสื่อม นอกจากนี้ควรทานเนื้อสัตว์ อาหารทะเล เพราะมีธาตุเหล็กที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้ายในเรื่องของความจำได้
แก้ไขที่ต้นเหตุของอาการชอบลืมที่เกิดขึ้นบ่อยๆ หมั่นฝึกฝนสมองและการเรียนรู้ จัดระบบและปรับพฤติกรรมตามนี้ ที่สำคัญคือการรักษาสุขภาพกาย จิตใจให้ดีเสมอ ส่งผลให้สมองมีความจำที่ดีได้ เช่นกันค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com