“พระพุทธรูปแก้วปางไสยาสน์ หรือ ปางโปรดอสุรินทราหู”พระพุทธรูปล้ำค่าในพระบรมมหาราชวัง พร้อมประวัติความเป็นมา…
advertisement
พระพุทธรูป”แก้วปางไสยาสน์“หรือ”ปางโปรดอสุรินทราหู“บ้างก็เรียกว่า”ปางปราบราหู” พุทธศิลปะ สมัยรัชกาลที่ 3 ขนาดยาว 18 เซ็นติเมตร สร้างจากแก้วใส ครอบพระเศียรกาไหล่ทอง ฐานทองคำลงยาราชาวดี ปัจจุบัน ประดิษฐานภายในหอพระสุลาลัยพิมาน ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง เป็นพระพุทธรูปล้ำค่าในพระบรมมหาราชวัง [ads]
ตำนานของพระพุทธรูปปางนี้ เมื่อสมัยที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหารในพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นอสุรินทราหูอุปราชของท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ ได้ฟังพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้าจากเทวดาและพรหมทั้งหลายจึงอยากไปเฝ้าพระพุทธเจ้าบ้าง แต่ติดอยู่ที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นมนุษย์มีร่างกายเล็ก ถ้าพระราหูเข้าไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมอง ซึ่งเป็นความลำบากเพราะพระราหูไม่เคยก้มเศียรให้ใคร แต่ด้วยความอยากที่จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าจนอดใจไม่ได้จึงได้ไปที่พระเชตวันในคืนหนึ่ง ก่อนที่ “อสุรินทราหู”จะเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทรงทราบด้วย พระอนาคตังสญาณ และทรงรู้ว่าอสุรินทราหูคิดดูหมิ่นพระองค์มีพระกายเล็ก ถ้าเข้าไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองไม่ต่างกับมดปลวก จึงตรัสสั่งแก่พระอานนท์ให้จัดสถานที่รับรองที่บริเวณพระคันธกุฎีอันเป็นสถานที่กว้างใหญ่พระพุทธองค์จะทรงนอนรับอสุรินทราหู เพื่อให้อสุรินทราหูได้เห็นอย่างใกล้ชิดและถนัดชัดเจน ทรงทำปาฏิหาริย์นิรมิตพระกายให้ใหญ่กว่าอสุรินทราหูหลายเท่าโดยให้อสุรินทราหูเห็นแต่ผู้เดียว แม้แต่เพียงพระบาททั้ง ๒ ข้างที่ซ้อนกันอยู่ ก็ยังสูงและใหญ่กว่าอสุรินทราหูเสียอีก เมื่ออสุรินทราหูเข้าใกล้ได้ถวายอภิวาท แทนที่จะต้องก้มลงดูพระพุทธเจ้ากลับต้องแหงนดูพระบาท พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาแก่ อสุรินทราหู ว่า “อสุรินทราหู บุคคลทั้งหลายเมื่อได้ทราบข่าวเล่าลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ หากยังไม่ได้เห็น ยังไม่พิจารณาให้ถ่องแท้แก่ใจตนแล้ว ไม่พึงติชมก่อน
อสุรินทราหู ท่านคงเข้าใจว่า ท่านมีร่างกายใหญ่กว่าเทพยดาและอสูรทั้งหลาย จริงอยู่บรรดาพวกอสูรทั้งหลายในอสูรพิภพนั้นมีร่างกายเล็กกว่าท่าน แต่ท่านคิดหรือเปล่าว่าในที่อื่นอาจมีผู้ที่มีร่างกายใหญ่กว่าท่าน เหมือนปลาใหญ่ในหนองคลองบึง มันอาจคิดว่าตัวมันโตกว่าปลาทั้งหลาย ไม่มีปลาตัวใดจะเสมอได้ เพราะมันยังไม่ได้ไปเห็นปลาในมหาสมุทร
อสุรินทราหู แม้ท่านเองก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้น อสุรินทราหู บรรดาพรหมทั้งหลายในพรหมโลกชั้นบนทั้งหมดล้วนมีร่างกายใหญ่กว่าท่าน ถ้าท่านมีความปรารถนาจะได้ดู, ได้ชม พรหมเหล่านั้น ตถาคตรับรองว่าจะพาท่านไปดู ไปชมได้แม้ในขณะนี้
เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จขึ้นปรากฏพระกายในพรหมโลก บรรดามหาพรหมทั้งหลาย ก็พากันมาเฝ้าเป็นอันมาก บรรดามหาพรหมที่พากันมาเฝ้าเหล่านั้น ล้วนมีร่างกายใหญ่กว่าอสุรินทราหูตั้งร้อยเท่าพันเท่า แต่พระผู้มีพระภาคกลับมีพระกายปรากฏว่าใหญ่กว่า มหาพรหมเหล่านั้นทั้งหมด ส่วนอสุรินทราหูคงมีร่างกายเท่าเดิม มีความหวาดกลัวตัวสั่นเทา หลบอยู่เบื้องหลังพระผู้มีพระภาคเจ้า เหมือนแมงมุมเกาะอยู่ที่ชายจีวร ท้าวมหาพรหมได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาพาเอาตัวอะไรขึ้นมาด้วยพระเจ้าข้า, พระศาสดาตรัสตอบว่า ผู้นี้คืออสุรินทราหู, เขาถือตัวว่าตัวมีร่างกายใหญ่ อยากจะเห็นผู้มีร่างกายใหญ่กว่า โดยคิดว่าในสกลโลกนี้ยังจะมีผู้ที่มีร่างกายใหญ่เท่าเขาอยู่บ้างหรือ ตถาคตจึงพาขึ้นมา ให้อสุรินทราหูได้เห็นประจักษ์ด้วยนัยน์ตาตนเอง [yengo]
ท้าวมหาพรหมได้กราบทูล เป็นอย่างนั้นแหละพระเจ้าข้า, วิสัยคนที่มานะอันกระด้าง ย่อมถือตัวยกตนข่มผู้อื่น เหมือนคนทุคคตะเข็ญใจได้ทรัพย์เพียงบาทหนึ่ง ก็ถือตัวว่าเป็นคนมีทรัพย์ หรือเหมือนคนพาลมีความรู้น้อยก็ทนงตนว่าเป็นปราชญ์ ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จประทับอยู่ในพรหมโลกพอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็ตรัสอำลาท้าวมหาพรหม พาอสุรินทราหูกลับลงมายังพระเชตวันวิหาร ทรงทรมานให้อสุรินทราหูลดมานะทิฏฐิอันกระด้างลงได้ กลับมีใจเลื่อมใสในพระศาสดา ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสรณะ แล้วกราบทูลลากลับไปยังพิภพของตน.
ที่มา: พระพิมลธรรม ราชบัณฑิต (ชอบ อนุจารีมหาเถร)
ที่มาภาพ: สิ่งล้ำค่าในพระบรมมหาราชวัง