มะม่วง..ผลไม้มากประโยชน์ ช่วยต้านโรค!!
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/02/มะม่วง-1-2-1024x512.jpg)
advertisement
มะม่วง เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมทานกันแพร่หลาย เพราะเป็นผลไม้ที่มีอยู่ทุกภาค และเดี๋ยวนี้มะม่วงมีให้ทานทุกฤดูกาล เนื่องจากมะม่วงนั้นมีหลายสายพันธุ์ที่สามรถให้ผลผลิตได้ตลอดปี และมะม่วงมีรสชาติที่เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ทั้งมะม่วงดิบและมะม่วงสุก ไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้นมะม่วงยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย วันนี้ Kaijeaw.com จะพาไปดูประโยชน์ของม่วงกันคะ
advertisement
![มะม่วง-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/02/มะม่วง-1-1.jpg)
มะม่วง ชื่อสามัญ Mango
มะม่วง ชื่อวิทยาศาสตร์ Mangifera indica L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Mangifera austroyunnanensis Hu) จัดอยู่ในวงศ์มะม่วง (ANACARDIACEAE)[ads]
คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงดิบต่อ 100 กรัม
▪ วิตามินบี 9 43 ไมโครกรัม 11%
▪ วิตามินซี 36 มิลลิกรัม 60%
▪ ธาตุแคลเซียม 11 มิลลิกรัม 1%
▪ ธาตุเหล็ก 0.16 มิลลิกรัม 1%
▪ ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
▪ ธาตุฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม 2%
▪ ธาตุโพแทสเซียม 168 มิลลิกรัม 4%
▪ ธาตุสังกะสี 0.09 มิลลิกรัม 1%
▪ วิตามินเอ 54 ไมโครกรัม 6%
▪ เบตาแคโรทีน 640 ไมโครกรัม 6%
▪ วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม 2%
▪ วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม 3%
▪ วิตามินบี 3 0.67 มิลลิกรัม 4%
▪ วิตามินบี 6 0.12 มิลลิกรัม 9%
▪ พลังงาน 60 กิโลแคลอรี
▪ คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
▪ น้ำตาล 13.7 กรัม
▪ เส้นใย 1.6 กรัม
▪ ไขมัน 0.38 กรัม
▪ โปรตีน 0.82 กรัม
advertisement
![มะม่วง-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/02/มะม่วง-2-1.jpg)
สรรพคุณทั้งหมดของมะม่วง
1. รักษาโรคโลหิตจางในหญิงที่ตั้งครรภ์
มะม่วงเปรี้ยว ๆ ถือเป็นของที่ถูกใจว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยรักษาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามะม่วงมีดีเพียงแค่นั้น เพราะมะม่วงก็มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน เพราะหญิงตั้งครรภ์นั้นมักจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย และการรับประทานมะม่วงก็จะช่วยให้ธาตุเหล็กอันเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางมีระดับสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ
2. ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต
มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถลดระดับความดันโลหิตได้ เพราะในมะม่วงมีสารอาหารที่สำคัญต่อระบบการไหลเวียนของเลือดอย่างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ทำให้ระดับความดันโลหิตถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปกติ นอกจากนี้มะม่วงยังมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศอีกด้วย
3. ป้องกันโรคมะเร็ง
สารประกอบฟีนอล ที่พบในมะม่วงอย่างเช่น เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทริน (isoquercitrin) แอสตรากาลิน (astragalin) ไฟเซติน (fisetin) เมทิลแกทเลท (methylgallat) มีฤทธิ์เป็นสารต้านนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการตอต้านการเกbดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ในมะม่วงก็ยังมีเพคติน (pectin) สูง และมีผลการวิจัยพบว่าสารเพคตินนี่ล่ะที่มีผลต่อการป้องกันการเกbดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้
4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารขอแนะนำให้รับประทานมะม่วงเลยล่ะ เพราะในมะม่วงนั้นมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนให้ง่ายต่อการดูดซึมของร่างกาย ขณะที่ไฟเบอร์ในมะม่วงก็สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย
advertisement
![มะม่วง-3](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/02/มะม่วง-3-1.jpg)
5. บำรุงสมอง
วิตามินบี 6 ในมะม่วงนอกจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันและสร้างเสริมการทำงานของสมอง เพราะเจ้าวิตามินบี 6 นี้มีส่วนสำคัญในการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยในการกำหนดอารมณ์และรูปแบบในการนอนหลับ การเติมมะม่วงลงไปในอาหารจะช่วยให้ร่างกายได้รับกลูตาไมน์ (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สมองสามารถจดจำและมีสมาดีขึ้น และยังทำให้เซลล์สมองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
6. ป้องกันโรคหัวใจ
วิตามินเอและวิตามินอีในมะม่วงรวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) สามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ไม่เพียงเท่านั้นในมะม่วงยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจด้วยการลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) เพราะเจ้าโฮโมซิสเตอีนนี่เป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผนังหลอดเลือดได้ อันเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง
7. รักษาโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน วิธีการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดคือการไม่รับประทานของหวาน ซึ่งมะม่วงก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงแต่ขอบอกไว้เลยว่ามะม่วงนี้ล่ะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ เพียงแค่นำใบมะม่วง 10-15 ใบแช่ลงในน้ำอุ่นและปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้านำน้ำนี้มาดื่มในขณะที่ท้องว่าง จะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ วิธีนี้สามารถรับประทานได้ทั้งคนที่เป็นเบาหวานหรือไม่เป็นก็ได้ หากผู้ที่มีสุขภาพปกติดื่มน้ำแช่ใบมะม่วงก็จะยิ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น
8. สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
มะม่วงมีสารเบต้าแคโรทีมเช่นเดียวกับผักผลไม้มีสีส้มและสีเหลืองอื่น ๆ เช่น แครอท เป็นต้น โดยสารเบต้าแคโรทีนนั้นเป็นสารแคโรทีนอยด์อันมีคุณสมบัติในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฉะนั้นถ้าไม่อยากป่วยง่ายก็ควรจะรับประทานมะม่วงเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับสารพิษและแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
advertisement
![มะม่วง-4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/02/มะม่วง-4-1.jpg)
9. บำรุงสายตา
มะม่วงมีวิตามินเอสูง ดังนั้นจึงช่วยบำรุงสายตาให้ยังใสปิ๊งปั๊งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องการการเสื่อมของจอประสาทตาเมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
10. บำรุงผิวพรรณ
ต้องยกความดีความชอบให้กับวิตามินเออีกครั้งเพราะวิตามินเอในมะม่วงนั้นมีคุณประโยชน์เพียบพร้อมจริง ๆ แม้แต่ในเรื่องผิวพรรณ การรับประทานมะม่วงทำให้เราได้รับวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นการใหลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อและผิวหนัง ช่วยให้การอุดตันของรูขุมขนลดลงส่งผลให้ผิวพรรณเรียบเนียนได้ค่ะ[ads]
11. รักษาสิว
หากใครไม่ชอบทานมะม่วงแต่ก็อยากรักษาสิวให้หายโดยไม่พึ่งยาละก็ลองหันมาใช้มะม่วงในการรักษาได้ค่ะ เพราะเนื้อมะม่วงนี้แม้เราจะไม่ได้รับประทานแต่ก็สามารถใช้บำรุงผิวพรรณ ลดสิวบนใบหน้าที่กวนใจได้ เพียงฝานมะม่วงบาง ๆ วางใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออก วิตามินเอในมะม่วงก็ช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นปลิดทิ้งเลย
มะม่วงไม่ใช่มีดีแค่รสชาติเท่านั้นแล้ว เรายังได้ประโยชน์จากการทานมะม่วงอีกด้วย ได้ทั้งรสชาติที่ เปรี้ยว หวาน มัน ได้ความอิ่ม และยังได้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพอีกหลายอย่าง ประโยชน์ดีๆแบบนี้ อย่าพลาดที่จะหาซื้อมาทานกันหรือปลูกต้นมะม่วงที่บ้านกันได้เลยจ้า
เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com