• หน้าแรก
  • อาหารเพื่อสุขภาพ
    • สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
    • สูตรเครื่องดื่ม
      • เครื่องดื่มสมุนไพร
        • เครื่องดื่มอื่นๆ
        • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • การทำอาหาร
    • เมนูอาหาร
      • อาหารคนท้อง
      • อาหารคนป่วย
      • อาหารจานเดียว
      • อาหารต่างชาติ
      • อาหารลดน้ำหนัก
      • อาหารว่าง
      • อาหารเจ
      • อาหารเช้า
      • อาหารเด็ก
      • อาหารไทย
      • อาหารไมโครเวฟ
      • เมนูไข่
  • สุขภาพ
    • โรคและการป้องกัน
      • ยารักษาโรค
    • การดูแลสุขภาพ
      • สุขภาพผู้ชาย
      • สุขภาพผู้หญิง
      • สุขภาพวัยรุ่น
    • การดูแลสุขภาพผิว
    • การลดน้ำหนัก
    • รอบรู้เรื่องยา
    • สุขภาพกาย
      • ออกกำลังกาย
    • สุขภาพจิต
  • ท่องเที่ยว
    • ร้านอาหารแนะนำ
    • ที่พักประทับใจ
    • เที่ยวทั่วไทย
      • เที่ยวน้ำตก
      • เที่ยวภูเขา
    • เทศกาลประเพณี
    • ข้อมูลการท่องเที่ยว
  • วาไรตี้
    • คุยเรื่องบ้าน
    • สาระน่ารู้
    • คุยเรื่องเกษตร
    • ความเชื่อ
    • สัตว์น่ารักทั่วทุกมุมโลก
    • ข่าวสาร
      • ข่าวกีฬา
      • ข่าวบันเทิง
        • อันดับดารา
      • ข่าวมาแรง
      • ข่าวสารสุขภาพ
      • ข่าวทั่วไป
  • ผู้หญิง
    • ความสวยความงาม
    • ทรงผม
    • ศัลยกรรม
    • แฟชั่น
    • เซ็กซ์
    • แต่งหน้า
    • แต่งงาน
    • แฟชั่น
    • แม่และเด็ก
  • ผู้ชาย
    • ความหล่อ ดูดี
    • ทรงผม
    • Hot Girl
    • ความรัก
    • ฟุตบอล
    • รถยนต์
    • แฟชั่น
    • วัยรุ่น
      • การศึกษา
      • กิจกรรมวัยรุ่น
      • เทคโนโลยี
  • Home
  • Cooking
  • Health
  • Variety
  • Lady
  • Male
kaijeaw
  • หน้าแรก
  • อาหารเพื่อสุขภาพ
    • สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
    • สูตรเครื่องดื่ม
      • เครื่องดื่มสมุนไพร
        • เครื่องดื่มอื่นๆ
        • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • การทำอาหาร
    • เมนูอาหาร
      • อาหารคนท้อง
      • อาหารคนป่วย
      • อาหารจานเดียว
      • อาหารต่างชาติ
      • อาหารลดน้ำหนัก
      • อาหารว่าง
      • อาหารเจ
      • อาหารเช้า
      • อาหารเด็ก
      • อาหารไทย
      • อาหารไมโครเวฟ
      • เมนูไข่
  • สุขภาพ
    • โรคและการป้องกัน
      • ยารักษาโรค
    • การดูแลสุขภาพ
      • สุขภาพผู้ชาย
      • สุขภาพผู้หญิง
      • สุขภาพวัยรุ่น
    • การดูแลสุขภาพผิว
    • การลดน้ำหนัก
    • รอบรู้เรื่องยา
    • สุขภาพกาย
      • ออกกำลังกาย
    • สุขภาพจิต
  • ท่องเที่ยว
    • ร้านอาหารแนะนำ
    • ที่พักประทับใจ
    • เที่ยวทั่วไทย
      • เที่ยวน้ำตก
      • เที่ยวภูเขา
    • เทศกาลประเพณี
    • ข้อมูลการท่องเที่ยว
  • วาไรตี้
    • คุยเรื่องบ้าน
    • สาระน่ารู้
    • คุยเรื่องเกษตร
    • ความเชื่อ
    • สัตว์น่ารักทั่วทุกมุมโลก
    • ข่าวสาร
      • ข่าวกีฬา
      • ข่าวบันเทิง
        • อันดับดารา
      • ข่าวมาแรง
      • ข่าวสารสุขภาพ
      • ข่าวทั่วไป
  • ผู้หญิง
    • ความสวยความงาม
    • ทรงผม
    • ศัลยกรรม
    • แฟชั่น
    • เซ็กซ์
    • แต่งหน้า
    • แต่งงาน
    • แฟชั่น
    • แม่และเด็ก
  • ผู้ชาย
    • ความหล่อ ดูดี
    • ทรงผม
    • Hot Girl
    • ความรัก
    • ฟุตบอล
    • รถยนต์
    • แฟชั่น
    • วัยรุ่น
      • การศึกษา
      • กิจกรรมวัยรุ่น
      • เทคโนโลยี
  1. หน้าแรก
  2. โรคและการป้องกัน

สารพัดวิธี..รักษาท้องผูกอย่างได้ผล!!

โพสเมื่อ 04/08/2015 23:44 น.
เคล็ดลับ

advertisement

 

      ท้องผูกเป็นอาการที่พบได้บ่อย หมายถึง การที่ลำไส้ไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระได้ง่ายและสม่ำเสมอ โดยมีความถี่ของการขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ร่วมกับก้อนอุจจาระมีลักษณะแข็งและยากต่อการขับถ่ายออกมา คนที่มีท้องผูกอาจรู้สึกเจ็บปวดเวลาถ่ายอุจจาระซึ่งมักต้องออกแรงเบ่ง ท้องอืดมีลมเยอะ แน่นท้องและรู้สึกว่าถ่ายไม่หมดรวมถึงถ่ายอุจจาระใช้เวลานาน


advertisement
ท้องผูกthaihealth.or.th

สาเหตุของภาวะท้องผูกคืออะไร?

      การทำความเข้าใจภาวะท้องผูกนั้น ควรทราบก่อนว่าลำไส้ใหญ่ทำงานอย่างไร ส่วนใหญ่สารอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางลำไส้เล็กก่อนที่อาหารจะเดินทางเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ เมื่ออาหารผ่านมาถึงลำไส้ใหญ่น้ำจะถูกดูดซึมออกจากอาหารจนเหลือแต่กากอาหารที่จะกลายเป็นอุจจาระต่อไป ลำไส้ใหญ่จะบีบตัวเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวันเพื่อผลักดันให้อุจจาระเคลื่อนต่อไปยังไส้ตรงในที่สุด ขณะนั้นปริมาณน้ำจะถูกดูดซึมไปเกือบหมดทำให้อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนรูปร่างเหมือนไส้กรอกและง่ายต่อการขับถ่ายออกมา ภาวะท้องผูกเกิดขึ้นเมื่อลำไส้ใหญ่ดูดซึมน้ำออกมากเกินไปหรือกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่บีบตัวเชื่องช้าหรือเฉื่อยชา ทำให้ก้อนอุจจาระเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่อย่างช้าๆ ส่งผลให้ก้อนอุจจาระแข็งและแห้งยิ่งขึ้น

 

[ads]

สาเหตุของท้องผูกที่พบบ่อย ได้แก่

      -การรับประทานอาหารไม่สม่ำเสมอ และมีปริมาณเส้นใยไม่เพียงพอ
      -ขาดการออกกำลังกาย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ)
      -ยาบางชนิด เช่น

                – ยาระงับปวด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มยาระงับปวดที่เป็นสารเสพติด)

                – ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมและแคลเซียม

                – ยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด (ยากลุ่มยับยั้งแคลเซียม)

                – ยารักษาโรคพาร์กินสัน

                – ยาต้านปวดเกร็ง

                – ยาต้านซึมเศร้า

                – ยาบำรุงที่มีธาตุเหล็ก

                – ยาขับปัสสาวะ

                – ยาต้านการชัก

      -กลุ่มอาการลำไส้ทำงานแปรปรวน
      -การเปลี่ยนแปลงในชีวิตหรือกิจวัตร เช่น การตั้งครรภ์ อายุมาก การเดินทางท่องเที่ยว
      -การใช้ยาระบายไม่ถูกต้อง
      -การละเลยที่จะออกแรงเบ่งเพื่อขับถ่ายอุจจาระ
      -โรคหรือสภาวะบางอย่าง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (พบได้บ่อยที่สุด)
      -ปัญหาของลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และการทำงานของลำไส้เอง (ภาวะท้องผูกเรื้อรังไม่รู้สาเหตุ)

สามารถรักษาผู้ที่มีภาวะท้องผูกได้อย่างไร?

การรักษาเชิงพฤติกรรม

      การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย1.5 ถึง 2.0 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกายทุกวันในระดับน้อยถึงปานกลางอาจทำให้มีการเคลื่อนไหวของลำไสเพิ่มขึ้นได้ ไม่ควรละเลยหรือยับยั้งความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ ถ้าเป็นไปได้เมื่อรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระควรไปถ่ายทุกครั้ง การละเลยหรือยับยั้งความรู้สึกอยากถ่ายอุจจาระเป็นประจำ จะทำให้ปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่ายอุจจาระลดลงเกิดอาการท้องผูกได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก และหลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายต่อเนื่องยาวนานโดยไม่จำเป็น

      การฝึกให้มีนิสัยการขับถ่ายที่ดี การฝึกให้มีนิสัยการขับถ่ายที่ดีมีความสำคัญมาก ไม่ควรละเลยหรือยับยั้งไว้บ่อยๆ ควรฝึกให้ถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระทุกวัน พบว่าเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายอุจจาระควรเป็นหลังตื่นนอนตอนเช้าหรือหลังอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ควรใช้ประโยชน์จาก gastrocolic reflex ซึ่งจะเกิดในช่วง 5-30 นาทีหลังมื้ออาหาร นอกจากนี้ควรให้เวลากับการถ่ายอุจจาระให้เพียงพอ ไม่ควรรีบเร่ง เช่น ถ้าช่วงเช้าเร่งรีบต้องออกจากบ้านควรเปลี่ยนเวลาตื่นนอนให้เร็วขึ้น เป็นต้น

      ท่านั่งที่เหมาะสมกับการขับถ่ายอุจจาระ ท่านั่งขับถ่ายมีผลอย่างมากต่อการขับถ่ายอุจจาระ ท่านั่งที่ถูกจะช่วยให้ไส้ตรงทำมุมดีขึ้นต่อการขับถ่าย ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลและไม่ล้า ท่าที่ควรนั่งขับถ่ายคือท่าประเภทนั่งยองหรืองอเข่า

      อาหาร การรับประทานอาหารสม่ำเสมอและดื่มน้ำเพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี อาหารที่มีปริมาณเส้นใยเพียงพอ (20-35 กรัมต่อวัน) จะช่วยให้อุจจาระมีขนาดใหญ่และนุ่ม อย่างไรก็ตามการรับประทานเส้นใยอาหารปริมาณมากอาจทำให้มีอาการท้องอืดหรือมีแก็สเยอะได้ในบางคน พยายามเพิ่มเส้นใยอาหารประเภทที่ละลายได้ง่าย (เส้นใยจากผัก ผลไม้ และข้าวโอ๊ต) ซึ้งดีกว่าประเภทที่ไม่ละลาย (เส้นใยจากเมล็ดธัญพืช) เริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนกระทั่งก้อนอุจจาระนิ่มลงและขับถ่ายบ่อยขึ้น แพทย์หรือนักโภชนาการสามารถจะช่วยวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมได้ อาจทราบปริมาณของเส้นใยมีหน่วยเป็นกรัมต่อมื้ออาหารที่รับประทานได้จากการอ่านข้อมูลข้างภาชนะบรรจุอาหารนั้นๆ อาหารบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยระบายโดยธรรมชาติ เช่น ลูกพรุน (ผลพลัมแห้ง) ผลมะเดื่อฝรั่ง ผลกีวี ชะเอมเทศ กากน้ำตาล (molasses) สำหรับผู้ที่ท้องผูกง่ายควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่มีเส้นใยหรือมีน้อย เช่น ไอศกรีม ชีส เนื้อสัตว์ หรืออาหารสำเร็จรูป


advertisement
ท้องผูก1clcr.biz

การรักษาด้วยการใช้ยา

      การรักษาภาวะท้องผูกขึ้นกับสาเหตุ ความรุนแรงของอาการ และระยะเวลาที่เป็น ส่วนใหญ่การปรับเปลี่ยนอาหารและพฤติกรรมจะช่วยบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ หากใช้วิธีง่ายๆ ดังกล่าวแล้วไม่ได้ผล อาจลองใช้วิธีต่อไปนี้รักษา

      -เส้นใยหรือไฟเบอร์ การรับประทานเส้นใยเป็นวิธีที่ถือว่าปลอดภัยที่สุด ยากลุ่มนี้มีประโยชน์ในรายที่ท้องผูกเนื่องจากรับประทานกากอาหารน้อย เส้นใยจะดูดน้ำให้อยู่ในลำไส้จึงทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลง ตัวอย่างยาได้แก่ agar (วุ้น), plantago seeds (พืชจำพวกเทียนเกล็ดหอย), bran (รำข้าว), prunes (ลูกพรุน) ยังรวมถึง methylcellulose, carboxymethylcellulose, polycarbophil ควรดื่มน้ำในปริมาณมากเพียงพอเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เส้นใยดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอุดกั้น ควรค่อยๆ เพิ่มปริมาณเส้นใยที่รับประทานช้าๆเพื่อป้องกันท้องอืด มีลมในท้องหรือปวดเกร็ง

      -ยาระบาย โดยทั่วไปควรใช้ยาระบายเป็นครั้งคราว ไม่ควรใช้ต่อเนื่องระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาระบายที่ออกฤทธิ์กระตุ้น อาจทำให้เกิดการดื้อยาได้ ผู้ที่ติดยาระบายจำเป็นต้องค่อยๆ หยุดยาช้าๆ หลังหยุดยาความสามารถในการบีบตัวของลำไส้จะกลับคืนมาได้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ยาระบายมีหลายชนิดให้เลือกตามกลไกการออกฤทธิ์ ความปลอดภัยโดยทั่วไปยาระบายอาจแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ดังต่อไปนี้

      -ยาระบายกลุ่มกระตุ้น ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อลำไส้บีบตัวเป็นจังหวะๆ ตัวอย่าง เช่น senna (มะขามแขก), bisacodyl ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินความจำเป็น เช่น รับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำหรือใช้ยาในปริมาณมาก เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

      -ยาระบายกลุ่มออสโมซิส ออกฤทธิ์ดูดซึมทำให้สารน้ำไหลกลับเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ผ่านช่องทางพิเศษ จึงมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีภาวะท้องผูกชนิดไม่ทราบสาเหตุ เช่น polyethylene glycol, lactulose และ sorbitol โดยทั่วไปนิยมใช้ polyethylene glycol เพราะต่างจาก lactulose และ sorbitol ตรงที่ไม่ก่อให้เกิดแก็สหรือท้องอืด ส่วน sorbital นั้นให้ผลเช่นเดียวกับ lactulose แต่ราคาถูกกว่า แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการใช้ยานี้

      -ยาระบายกลุ่มเกลือ ออกฤทธิ์เหมือนฟองน้ำที่ดึงน้ำเข้าสู่ลำไส้ใหญ่เพื่อให้อุจจาระเคลื่อนตัวผ่านไปได้ง่ายคล้ายคลึงกับยาระบายกลุ่มออสโมซิส ตัวอย่าง เช่น magnesium hydroxide และ magnesium citrate ยาระบายกลุ่มนี้ใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะท้องผูกเฉียบพลันที่ไม่ได้เกิดจากการอุดกั้นของลำไส้

      -ยาเหน็บทวารและการสวนอุจจาระ นอกจากยาระบายจะมีรูปแบบการใช้เป็นยาแบบรับประทาน (ยาน้ำ ยาเม็ด ยาผง หรือยาแกรนูล) ยังมีในรูปแบบของยาเหน็บหรือยาสวนทวารซึ่งใช้โดยการสอดผ่านรูทวารเข้าไปในไส้ตรง แม้ว่าคนจำนวนมากไม่ชอบใช้ยารูปแบบนี้ แต่เป็นวิธีที่ให้ผลเร็วกว่าการรับประทาน เมื่อสอดเข้าไปในไส้ตรง ยาจะไปทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลงและทำให้ผนังของไส้ตรงหดตัวเพื่อขับอุจจาระออกมา การใช้ยาในเวลาเดิมของทุกวันอาจช่วยให้การขับถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอ ในรายที่ไม่ตอบสนองต่อวิธีรักษาดังกล่าวมาแล้ว อาจใช้ชุดสวนอุจจาระสำเร็จรูปที่มีเกลือ sodium phosphate/biphosphate (fleet) เป็นครั้งคราวได้ แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจหรือโรคไต ยกเว้นแพทย์สั่งให้ใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์

     -ยาอื่นๆ  สารปลุกฤทธิ์คลอไรด์แชนแนลทำให้ลำไส้มีน้ำเพิ่มขึ้นและเคลื่อนไหวมากขึ้น  ซึ่งช่วยให้อุจจาระเคลื่อนตัวได้ดีจึงลดอาการของภาวะท้องผูกลง ตัวอย่าง เช่น lubiprostone เป็นยาที่ใช้เพื่อรักษาผู้ที่มีภาวะท้องผูกรุนแรงและสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยนานถึง 6-12 เดือน หลังจากนั้น แพทย์ควรประเมินถึงความจำเป็นในการใช้ยาต่อไป ยากลุ่มนี้มีราคาแพงเมื่อเทียบกับยาระบายอื่นๆ อย่างไรก็ตามอาจจำเป็นต้องใช้ยานี้หากใช้ยาอื่นไม่ได้ผล

      การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ   เช่น ไบโอฟีดแบ็ก (Biofeedback) และการผ่าตัด ซึ่งไบโอฟีดแบ็กเป็นการฝึกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยนักกายภาพบำบัด อาศัยเครื่องรับรู้ (sensor) ในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อโดยแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาจช่วยแก้ปัญหาในผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะท้องผูกรุนแรงเรื้อรังจากปัญหากล้ามเนื้อบีบรัดและไม่ผ่อนคลายขณะขับถ่ายอุจจาระ ส่วนการผ่าตัด อาจช่วยแก้ปัญหาบริเวณไส้ตรงและทวารหนัก เช่น ไส้ตรงยื่นย้อย ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดการยื่นของผิวเยื่อบุไส้ตรงผ่านรูทวารออกมาภายนอก การผ่าตัดลำไส้ใหญ่ออกอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจากภาวะลำไส้ใหญ่เฉื่อย แม้ว่าการผ่าตัดนี้จะมีประโยชน์ แต่ผู้ป่วยเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ปวดท้อง ท้องร่วง และกลั้นอุจจาระไม่อยู่


advertisement
ออกกำลังกายlnwfile.com

[yengo]

ข้อควรจำ

      -สาเหตุซึ่งพบบ่อยที่สุดของภาวะท้องผูกเกิดจากปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องพฤติกรรมของชีวิต ได้แก่ การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้องและขาดการออกกำลังกาย
      -สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ยาบางชนิด กลุ่มอาการลำไส้ทำงานแปรปรวน การใช้ยาระบายในทางที่ผิด และโรคจำเพาะบางโรค
      -การซักประวัติและการตรวจร่างกายทางการแพทย์อาจเป็นการทดสอบเดียวที่จำเป็นก่อนที่แพทย์จะเริ่มให้การรักษา
      -ผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะบรรเทาอาการลงได้และป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ โดยการปฏิบัติตนตามแนวทางง่ายๆ ต่อไปนี้
      -รับประทานอาหารที่มีสมดุลและมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำง่าย ได้แก่ ผักและผลไม้สด
      -ดื่มน้ำปริมาณมากเพียงพอ
      -ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
      -ภายหลังอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นควรมีเวลาสำหรับการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายโดยไม่ถูกรบกวน
      -อย่าเพิกเฉยเมื่อมีความรู้สึกปวดอยากขับถ่ายอุจจาระ
      -ตระหนักว่านิสัยการขับถ่ายปกตินั้นมีความแปรปรวนแตกต่างกัน
      -เมื่อใดที่นิสัยการขับถ่ายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือเกิดต่อเนื่องยาวนาน ควรปรึกษาแพทย์

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลจาก : หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

โดย โสพิศ กองปราบ 

ท้องผูก แคลเซียม โรคพาร์กินสัน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ :

อาชีพช่างซ่อมตุ๊กตา อีกหนึ่งอาชีพฮีลใจที่ได้ซ่อมความทรงจำดีๆ
เคล็ดลับ
ลูกค้าทักมาซื้อเค้ก บอกไม่น่าแพงขนาดนั้น เจอร้านสวนกลับ ทำเองมั้ยพี่
    เค้ก ถือเป็นเบเกอรี่ที่ต้องใช้ฝีมือในการทำเพราะนอกจากจะทำให้รสชาติอร่อยแล้ว ยังต้องแต่งหน้าเค้กให้สวย เพราะส่วนใหญ่จะซื้...
เคล็ดลับ
แชร์สนั่น โรงพยาบาลใกล้วัดไร่ขิงงบประมาณติดลบ ชาวเน็ตแนะทำบุญให้ถูกที่
เป็นอีกหนึ่งประเด็นให้พูดถึงกันอย่างมากมาย สำหรับกรณีของ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ยักยอกเงินจากบัญชีวัดไปยังบัญชีส่วนตัว...
เคล็ดลับ
สาวสั่งอาหารตอนฝนตก รู้สึกเกรงใจกลัวไรเดอร์ลำบาก ก่อนไรเดอร์เข้ามาตอบชัดๆ
เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องการสั่งอาหารผ่านแอปพลิ...
เคล็ดลับ
ซอยเข้าบ้านลูกค้าสุดแคบ ไม่เซียนจริงไม่กล้าเข้า
        ใครที่ขับรถยนต์เป็นใหม่ๆ หรือว่าขับรถไม่แข็งไม่เก่ง ถ้าเจอซอยแคบๆ อาจจะไม่กล้าเข้าซอยเลย เพราะถ้าเจอซอยแคบๆ ขับรถไม่...
เคล็ดลับ
เมื่อเพื่อนบวชใหม่ ให้พรยังไม่คล่อง เพื่อนถึงกับกลั้นขำแทบไม่ไหว
      แน่นอนว่าหนุ่มๆ ที่บวชพระใหม่ๆ เรื่องการท่องบทสวดมนต์อาจจะยังไม่ได้ จำเป็นต้องเปิดหนังสือสวดมนต์ก่อน ต้องหัดสวด หัดท่อ...
เคล็ดลับ
บ้านพึ่งสร้างเสร็จแท้ๆ เรียกช่างมาติดตั้งจานทีวี เห็นงานแล้วแทบร้องไห้
        การจ้างช่างผู้รับเหมาเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ว่าคุณจะได้บ้าน หรือว่างานที่มีคุณภาพหรือไม่ เราจะเห็นหลายๆ บ้านที่ได้ช่...
เคล็ดลับ
ขโมยหมดสิทธิ์แน่ เมื่อเจอลวดหนามบ้านหลังนี้
    กำแพงรั้วบ้านนอกจากจะเป็นแนวกำหนดพื้นที่แนวเขตบ้านเราให้ชัดเจนแล้ว ยังเป็นการป้องกันขโมย โจรเข้าบ้านด้วย หลายคนก็ทำกำแพง...
เคล็ดลับ
นักปั่นไม่ได้ติดแอ็ค เวลาแวะคาเฟ่ไม่ชอบถอดหมวก เพราะถอดแล้วมันจะฮา
       เป็นอีกหนึ่งกีฬา และการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม สำหรับ การปั่นจักรยาน นอกจากได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกห...
เคล็ดลับ
มิติใหม่ของการฟังเรื่องผีแบบใกล้ชิด คาเฟ่เดอะโกสต์ได้ฟิลชวนขนลุก
   ถ้าพูดถึงรายการผีคงไม่มีใครไม่รู้จักรายการ The Ghost Radio รายการเล่าเรื่องผีจากประสบการณ์หลอนๆของคนทางบ้าน ที่มีพิธีกรอย...
เคล็ดลับ
ดูทั้งหมด

ข่าวสารล่าสุด

คุณครูอวดแกงผักหวานฝีมือแม่ห่อมาให้กินที่ทำงาน เปิดมาเจอเซอร์ไพรส์ ใยอาหารเต็มๆ

เปิดประวัติ คมสันต์ ลี เจ้าของขนส่งดังผู้เป็นแรงบันดาลใจในซีรีส์

ช่างไฟกุมขมับ เจาะน๊อตเสาในบ้าน แต่เจาะเข้าไปมีน้ำพุ่งออกมา สงสัยน้ำเข้าได้ไง

กลิ่นนี้เป็นทุกบ้านหรือเปล่า เมื่อแม่หั่นแตงโมให้กิน แต่ทำไมมักจะมีกลิ่นแปลกๆติดมา

ไปทานข้าวร้านอาหารกินจนหมด เห็นก้นจานแล้วร้องอี๋ ดำขนาดนี้ราหรือล้างไม่เกลี้ยง

ข่าวเด่นประจำสัปดาห์

หมวดหมู่

  • Featured
  • การทำอาหาร
  • ท่องเที่ยว
  • ธ สถิตในดวงใจ
  • ผู้ชาย
  • ผู้หญิง
  • วัยรุ่น
  • วาไรตี้
  • สุขภาพ
  • อาหารเพื่อสุขภาพ

แท็กยอดนิยม

  • ครู
  • บ้าน
  • รถ
  • ลูก
  • สร้างบ้าน
  • ห้องน้ำ
  • อาหาร
  • ฮา
  • เงิน
  • แฟน

ติดต่อไข่เจียว

  • ติดต่อเรา
  • แจ้งลบ
Copyright © 2015 kaijeaw.com All rights reserved.