สาระดีมีประโยชน์!! หนุ่มหล่อรีวิวประสบการณ์ “ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก” บอกเลยคนไม่เคยต้องดู!!
advertisement
เรียกได้ว่าเป็นความรู้และสาระดีๆที่มีสมาชิกจากเว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 1669208 ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวและรีวิวประสบการณ์ดีๆ ของการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก แบบละเอียด โดยในเนื้อหานั้นจะมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อนสำหรับเพื่อนๆที่เคยขึ้นเครื่องบินมาแล้วก็ดูได้เป็นสาระความรู้ทบทวนความจำเพื่อเวลาจะขึ้นเครื่องจะได้ไม่เก้ๆกังๆ จะรอช้าอยู่ใยไปชมกันเลยค่ะ
หลายๆท่านคงยังสับสนและไม่เข้าใจเรื่องเล็กๆน้อย วิธีหรือขั้นตอนในการขึ้นเครื่อง โดยเฉพาะการขึ้นเครื่องครั้งแรก วันนี้ผมจะมานำเสนอขั้นตอนและวิธีคร่าวๆที่จำเป็นรวมถึงอาจจะละเอียดนิดนึง เพื่อเป็นแรงเสริมในการใช้บริการของการขนส่งทางอากาศนะครับ สำหรับท่านใดที่ชำนาญแล้วก็สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้นะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ
ครั้งนี้จะรีวิวการขึ้นเครื่องภายในประเทศที่สนามบินดอนเมืองนะครับ พร้อมแล้วลุยกันเลย
ก่อนอื่นเลย การเดินทางไปสนามบินนั้น ผมมีแบบประหยัดมาให้ครับ ส่วนท่านใดจะสะดวกรถส่วนตัวหรือแท็กซี่ก็ไม่ว่ากันนะครับ สะดวกที่สุดน่าจะเป็นการเดินทางจาก BTS หรือ MRT ลงสถานีหมอชิตหรือสวนจตุจักรครับ ท่านที่มา BTS ก็เดินลงมาฝั่งสวนจตุจักรได้เลย ส่วนท่านที่มา MRT ก็เดินตามป้ายบอกทางมาสวนจตุจักรแล้วยืนรอรถสาย A1 หรือ A2 ครับตามรูปเลยครับ รถสองสายนี้วิ่งไปดอนเมืองขึ้นทางด่วนเหมือนกันครับ ต่างกันตรงที่ A1 วิ่งมาจากหมอชิต A2 วิ่งมาจากอนุสาวรีย์ฯ ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ปัจจุบันสองสายนี้ยังวิ่งอยู่ครับ ผมใช้บริการประจำ ค่ารถถึงดอนเมือง 30 บาท ครับ ตอนกระเป๋าเก็บตังบอกเขาด้วยนะครับว่าลงแอร์พอต เพราะถ้าไม่มีคนลงตลาดดอนเมือง รถจะวิ่งเข้าสนามบินเลยไม่ได้ออกทางด่วนครับ
advertisement
ฺ MRT ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติจะกดยากมาก แนะนำไปซื้อที่เคาเตอร์เลยนะครับ ส่วน BTS ใช้เหรียญ 2 บาทไม่ได้ หรือสะดวกไปซื้อตั๋วที่เคาเตอร์เลย หรือไม่ก็ยื่นเงินแบ้งค์ให้ไม่ต้องพูดอะไร เขาก็จะให้เหรียญสิบบาทเรามาหยอดเอง 555
advertisement
ยืนรอที่ป้ายนี้ครับ หากใครไม่สะดวกก็เดินเลยไปรอที่ป้ายรถเมล์ก็ได้ แต่ม่านอาจจะไม่ได้นั่งถ้าคนเยอะ
advertisement
ตัวอย่างรถครับ
advertisement
แนะนำถ้าใครหิว ก็ให้รองท้องจากตรงนี้ไปก่อนก็ได้ เพราะไปถึงที่นู้นแล้ว ของกินราคาจะสูงนิดนึงครับ
advertisement
พอไปถึงสนามบินแล้ว รถจะจอดให้ลงที่เดียวครับ สายการบินภายในประเทศจะอยู่อาคาร 2 เมื่อลงจากรถแล้ว ให้เดินเข้าไปในตัวอาคารแล้วเดิน เลี้ยวขวา นะครับ
advertisement
นี่ครับ ทางเข้าอาคาร 2 หลังจากนั้นแล้วก็เป็นขั้นตอนเชคอินครับ
การเชคอินมีหลายวิธีครับ คือ
-เชคอินจากเคาเตอร์สายการบิน อันนี้ต้องมาก่อน 2 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง เคาน์เตอร์ปิดบริการ 45 นาทีก่อนเวลาออกเดินทาง(แก้ไขข้อความครับ ขอบคุณท่าน pondding ครับ) แล้วแต่สายการบิน ยื่นแค่บัตรประชาชนให้เลยครัล จากนั้นก็รับบอดดิ้งพาส (ตั๋วโดยสาน) แล้วเดินไปขึ้นเครื่องได้เลยครับ
-เชคอินจากแอพบนมือถือ ดาวน์โหลดแอพของสายการบินนั้นๆ แล้วใส่รหัสการจองพร้อมชื่อหรือนามสกุล(แล้วแต่สายการบิน) เช่น
*แอร์เอเชีย สามารถนำโค้ดจากมือถือหรือส่งบอดดิ้งพาสไปยังอีเมล์ปริ้นออกมาเดินขึ้นเครื่องได้เลยครับ
*ไทยไลอ้อน คล้ายๆกัน แต่จะเลือกที่นั่งเองได้ฟรีครับ ส่วนผมสะดวกปริ้นออกมาเลยเพราะไม่อยากไปเสียเวลาต่อคิวอชคอินครับ
ท่านใดที่ไม่ได้จองโหลดกระเป๋าไว้ ก็ติดต่อตรงนี้เลยครับ
advertisement
หรือใครที่เชคอินแล้วไม่แน่ใจก็สามารถไปใช้บริการได้ครับ ตัวอย่างของแอร์เอเชีย ต่อไปก็เดินไปขึ้นเครื่องได้เลยครับ แต่อย่าพึ่งชล่าใจนะครับ อีกหลายขั้นตอน ต้องเดินอีกไกล อย่าปล่อยเวลาทิ้งไปเฉยๆครับ[ads]
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว สังเกตุทางด้านซ้ายนะครับ(เส้นทางจากการเดินเข้ามา) จะมีป้ายบอกผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ประตูแรกจะมีเจ้าหน้าเตือนให้เตรียมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางหรือหลักฐานเกี่ยวกับตัวเด็ก(กรณีเด็กหรือมารกไม่มีบัตรประชาชน) พร้อมกับบอดดิ้งพาส(ตั๋วโดยสาร)
พอเดินเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจครับ มีหลายช่องทาง เลือกได้เลย ตรงนี้ยื่นเอกสารที่เตรียมไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจครับ เรียบร้อยแล้ว เดินตามทางที่กั้นไปเรื่อยๆครับ อย่าไปมุดแซงเขาเอานะครับ ไม่อย่างนั้นท่านจะได้เป็นดาราทันที่
advertisement
ต่อไปเป็นการตรวจสำภาระครับ เลือกแถวเองนะครับ แถวยาวแถวสั้นตามใจชอบ แต่บอกว่า เข้าได้ทุกช่องครับ เอาของทุกอย่างใส่ในตระกร้าสีน้ำเงินที่เตรียมไว้ครับ ทุกอย่างเอาออกจากประเป๋าเสื้อกางเกงให้หมดครับ รวมทั้งเข็มขัดด้วยครับ กระเป๋าไม่ต้องใส่ในตระกร้า วางตามรางเลย ส่วนท่านใดที่คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ้ค หรือแทบเล็ต ต้องเอาออกจากกระเป๋าวางในตระกร้านะครับ แล้วยืนรอตามเส้นที่ขีดไว้ รอพนักงานเรียกเข้าเครื่องสแกนตัวครับ ถ้าหากตัวท่านเอาของออกจากกระเป๋าไม่หมดจะมีเสียงเตือนขึ้น ท่านจะถูกเชิญให้ไปสแกนร่างกายอย่างละเอียดครับ ไม่ต้องตกใจครับ แต่ยืนบนเส้นแล้วกางแขนออกให้ตรวจเฉยๆ พอเจอสิ่งไม่ผิดปกติก็ไม่มีอะไรครับ
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาเชคสำภาระของตัวเอง จะมีโต๊ะวางอยู่ ตรงนั้นไปวางของแล้วดำเนินการได้ครับ แล้วก็เดินจากไป ส่วนใครจะใจดีช่วยเก็บตระกร้าไว้ที่เก็บก็ได้นะครับ เผื่อพนักงานเดินตามเก็บตามรอบไม่ทัน คนอื่นจะได้มาวางบ้าง
ต่อไปเป็นการเดินไปขึ้นเครื่องครับ ในบอดดิ้งพาสจะมี GATE หรือประตูทางออกสำหรับขึ้นเครื่องบอก มองบนครับ พอเจอแล้วก็ไปตามลูกศรเลยครับ ตรงนี้อาจจะงงกันนิดนึง ผมจะอธิบายให้เข้าใจดังนี้ครับ
advertisement
หมายเลข 1 คือ รหัสการจอง ตรงนี้แระครับที่ใช้สำหรับเชคอิน
หมายเลข 2 คือ ประตูไปขึ้นเครื่องครับ ตัวอย่าง หมายเลข 51 ก็เดินตามลูกศรไปเลยครับ
ไปยังเกทครับ เดินตามเลย
หมายเลข 3 คือ เวลาที่เรียกขึ้นเครื่องครับ การเรียกขึ้นเครื่องเขาจะเรียกตามลำดับครับ เช่น บัตรพรีเมี่ยม สิทธิพิเศษ ก่อน จากนั้นก็แถวที่ 1 ถึง 30 แล้วต่อไปเรื่องๆ ครับ
หมายเลข 4 คือที่นั่งครับ พอเข้าไปในเครื่องจะเริ่มนับแถวที่ 1 สังเกตุจากที่เก็บกระเป๋าด้านบนครับ ส่วนตัวภาษาอังกฤษนั้นเป็นตำแหน่งนั่งในแถวนั้นครับ ตามรูปเลยครับ
advertisement
หมายเลข 5 คือ ไฟท์บินครับ ตัวนี้มีประโยชน์ในกรณีที่เราเชคอินก่อนวันเดินทางผ่านแอพหรือเว็บไซต์จะไม่มีเกทหรือประตูให้ เราต้องมาหาเองครับ หาเที่ยวบินของเราว่าอยู่ตรงไหน หากมีการเปลี่ยนแปลงประตูขึ้นเครื่องจะมีเจ้าหน้าที่ประกาศ หรือข้อมูลบนจอจะเปลี่ยนไปครับ ดังรูปครับ
หากใครหิวหรืออยากซื้อของฝาก ข้างในมีบริการครับ
ส่วนตัวผมแล้ว KFC ครับ ราคามาตราฐาน
กินไปด้วยฟังเสียงประกาศไปด้วยนะครับ
ตู้เอทีเอม
จุดนั่งเล่นสำหรับเด็ก
นั่งเล่นชิวๆ
ข้างในมีที่นั่งเยอะครับ ทั้งห้างร้านที่มาแสดงสินค้า ส่วนนี้ นั่งฟรีครับ
เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศแล้วก็เข้าแถวตามลำดับบอดดิ้งพาสครับ ตรงนี้ยื่นบอดดิ้งพาสและบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางหลักฐานเกี่ยวกับตัวเด็กอีกครั้ง บางท่านอาจจะเป็นบอดดิ้งพาสจากเคาเตอร์ หรือ แบบที่ปริ้นมา หรือแบบอยู่ในมือถือ แล้วแต่สายการยินครับ ยื่นให้ตรวจอีกครั้งนึง แล้วเดินไปยังเครื่องเลย บางสายการบินต้องเดินไปขึ้นรถบัสเพื่อไปยังเครื่องครับ ง่ายๆ เดินตามเขาไปเลย
ที่เก็บกระเป๋าด้านบนจะไม่ใหญ่มาก หมายถึงใส่กระเป๋าใหญ่ๆไม่ได้ ต้องโหลดใต้เครื่องครับ สายการบินอนุญาตให้ถือติดมือไปด้วยครับแล้วแต่สายการบิน เช่น ไม่เกิน 2 ชิ้น น้ำหนักรวมไม่เกิน 7 หรือ 15 กิโลแล้วแต่สายการบินครับครับ พอนั่งประจำที่แล้วก็เตรียมตัวเดินทางครับ[ads]
พอหาที่นั่งที่เก็บของได้แล้ว จะมีเจ้าหน้าที่มรคอยบริการให้คำแนะนำครับ รัดเข็มขัด ใครที่นั่งติดหน้าต่างก็ให้เปิดหน้าต่างไว้ก่อนตอนเครื่องขึ้นและลง(น่าจะช่วยดูว่าเกิดความผิดพลาดภายนอกอะไรหรือเปล่าระหว่างการบินขึ้นและลง) ส่วนท่านที่นั่งติดประตูฉุกเฉินเจ้าหน้าที่จะแนะนำการเปิดประตู หากไม่เข้าใจหรือไม่สามารถทำได้ จะได้ย้ายที่นั่งครับ ก่อนเครื่องขึ้นก็ให้ดูหนุ่มๆสาวๆแนะนำการนั่งเครื่องนะครับ
พอเดินทางมาถึงแล้ว จะมีป้ายบอกทางออกและทางไปรับกระเป๋าครับ
ผิดพลาดประการใดแนะนำได้นะครับ สิ่งสำคัญหากไม่เข้าใจขั้นตอนตรงไหน ไม่ต้องอายครับ ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย
ขอให้เดินทางปลอดภัยครับ
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
มีสาระดีมาก
เป็นประโยชน์สุดๆ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากเจ้าของกระทู้นะคะที่มามอบสาระดีๆให้กับเพื่อนๆชาวเน็ตได้รับรู้กัน หากเพื่อนๆคิดว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ก็อย่าลืมแชร์กันออกไปให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 1669208