หม้อน้ำรถยนต์..เรื่องที่ควรดูแลใส่ใจ

advertisement
ในยุคที่เร่งรีบเหมือนในปัจจุบันนี้ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีความจำเป็นอย่างมาก รถก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกอีกชนิดหนึ่งที่มาช่วยให้การเดินทางมีความรวดเร็วขึ้น รถยนต์ในปัจจุบันมีความทันสมัยขึ้นมีกลไกลในการทำงานที่ง่ายขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลบำรุงรักษารถเท่าไหร่ ฉะนั้นเมื่อรถมีปัญหาเกิดขึ้นก็แสดงสัญณาณเตือนที่หน้าปัดขึ้น แล้วก็เรียกช่างเข้าอู่ซ่อมกัน ปัญหาเรื่องหม้อน้ำก็เป็นปัญหาหนึ่งเหมือนกันที่ต้องทำให้นำรถเข้าอู่ซ่อม วันนี้ kaijeaw.com มีวิธีง่ายๆ ในการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์มาฝากคะ
advertisement

การตรวจสอบหม้อน้ำมีวิธีการดังนี้[ads]
– ควรตรวจสอบระดับน้ำ สภาพสีของน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง รวมไปถึงการตรวจสอบพัดลมหม้อน้ำ สายพาน ท่อยางต่างๆ ว่ามีสภาพปกติ หรือทำงานดีอยู่หรือไม่ และสังเกตดูใต้ท้องรถให้ดี ว่ามีคราบน้ำยาหล่อเย็น (น้ำยาหม้อน้ำ) หยด หรือมีคราบใต้ท้องรถหรือไม่
– หากขับๆ อยู่แล้วความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ให้ตรวจสอบระดับน้ำที่หม้อพักน้ำ ว่าลดลง หรือหายไปหมดรึเปล่า แต่ถ้าน้ำไม่ได้ลดลง ให้ตรวจดูในส่วนอื่นๆ เช่น พัดลมไฟฟ้า ว่ายังหมุนทำงานอยู่หรือไม่ ฯลฯ นอกจากนี้อาจเป็นไปได้ว่า หม้อน้ำอาจเกิดการอุดตัน และเทอร์โมสวิตช์ เทอร์โมสตัท ปั๊มน้ำ หรือวาวล์น้ำอาจเสียก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องพึ่งช่างผู้ชำนาญงานเป็นคนตรวจสอบให้
– สังเกตอาการหม้อน้ำรั่วด้วยตนเอง สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเช็คน้ำในหม้อน้ำ หากน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว ต้องเติมน้ำบ่อยกว่าปกติที่เคยเติมประจำ และดูตรงหม้อพักด้วยว่าน้ำในหม้อน้ำ ดันมาเก็บที่หม้อพักหรือไม่ จากนั้นเมื่อขับรถมาจนเครื่องร้อนแล้ว ในขณะที่จอดรถ มีน้ำหยดลงมาบริเวณที่จอดรถด้วยหรือไม่
advertisement

การทำความสะอาด
วิธีการที่จะทำความสะอาดระบบหล่อเย็นด้วยตนเอง คือการขยันถ่ายน้ำในระบบบ่อยๆ และควรถ่ายน้ำในขณะที่อุณหภูมิของน้ำยังร้อนๆ หรืออย่างน้อยก็ยังอุ่นๆ อยู่ เพราะสิ่งสกปรกและสนิมจะยังไม่ตกตะกอนนอนก้น จะมีโอกาสถูกถ่ายทิ้งออกมาได้ง่ายกว่าการถ่ายตอนที่น้ำในระบบเย็นหมดแล้ว
หากพบว่าหลังจากถ่ายน้ำไปแล้วยังมีสีสนิมหลงเหลืออยู่ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่สนิมยังคงต้องมีอยู่บ้าง ถ้าไม่สบายใจจริงๆ ก็ต้องนำรถไปหาช่างที่ร้านหม้อน้ำ ให้เขาทำการล้างหม้อน้ำด้วยการใช้แรงดันน้ำเข้าไปไล่สิ่งสกปรกรวมทั้งสนิมออก
ฝาหม้อน้ำ
จะรู้ได้อย่างไรว่าฝาหม้อน้ำเสีย ให้สังเกตดูระดับน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ถ้าพบว่าน้ำในหม้อพักน้ำไม่ยุบแต่น้ำในหม้อน้ำยุบลงกว่าปกติหรือน้ำในหม้อพักน้ำขาดต้องเติมบ่อยๆ แต่ไม่มาก นั่นคืออาการของฝาหม้อน้ำเสียแล้ว ให้เปลี่ยนใหม่เลย (ให้ใช้ของแท้)
advertisement

ฝาหม้อน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมความดันภายในหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และช่วยเพิ่มจุดเดือด ของน้ำหล่อเย็นในระบบ ให้สูงขึ้น ในขณะที่น้ำหล่อเย็น มีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำจะเกิดการขยายตัว เพื่อดันตัวเอง ออกสู่ภายนอกหม้อน้ำ สปริงวาล์วของฝาหม้อน้ำ จะต้านทานแรงดันนี้ไว้ได้ระดับหนึ่ง หากน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีก แรงดันที่เกิดขึ้น จะมากกว่าแรงต้านทานที่ฝาหม้อน้ำจะรับได้ แรงดันนี้ จะดังสปริงวาล์วฝาหม้อน้ำ ให้เปิดออก แล้วน้ำก็จะไหลออกไป ทางรูน้ำล้น ที่อยู่ด้านข้างขอบปากหม้อน้ำ ซึ่งจะมีสายต่อท่อน้ำล้นออกไปสู่ถังน้ำสำรอง (Coolant reserve tank) ในทางกลับกัน ขณะที่อุณหภูมิน้ำลดลง ความดันน้ำในหม้อน้ำจะลดลงด้วย ก็จะเกิดภาวะ สุญญากาศในหม้อน้ำ ทำการดูดน้ำ ที่อยู่ในถังน้ำสำรอง กลับคืนสู่หม้อน้ำดังเดิม
ข้อสำคัญ อยู่ที่ต้องตรวจระดับน้ำในระบบหล่อเย็นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และขณะขับรถต้องหมั่นสังเกตมาตรวัดความร้อนเสมอๆ เท่านั้นเอง[ads]
advertisement

เห็นได้ว่าหม้อน้ำรถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก ฉะนั้นจึงควรตรวจสอบและหมั่นสังเกตมาตราวัดความร้อนอยู่เสมอ เพื่อลดปัญหาในการเอารถเข้าอู่ อย่าละเลยที่จะสนใจดูแลบำรุงรักษารถยนต์และปัญหาของรถนะคะ เพราะไม่ว่าจะปัญหาเล็กปัญหาใหญ่ถ้ารีบแก้ไขนอกจากจะทำให้รถมีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอแล้ว
ยังทำให้มีความปลอดภัยขึ้นก็ช่วยลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
เรียบเรียงโดย: Kaijeaw.com