รู้สาเหตุแล้ว ทำไมต้องถึงกับทุบทิ้ง หอพักป้าเยี่ยม
advertisement
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ที่เกิดเหตุ หอพัก 3 ชั้น ทรุดตัว จำนวน 30 ห้อง ใน ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จนทำให้ผู้พักอาศัยในหอพักนั้นต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอด และทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้ปิดพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย
โดยล่าสุดทาง นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นางสาววันนา แตงมณี รองนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผยผลการตรวจสอบอาคารหอพักเยี่ยมเจริญ ของนางเยี่ยม คำหริ่ม (กลัดเจริญ)
advertisement
ซึ่งจากการตรวจสอบการทรุดตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่า ขณะนี้อาคารทรุดตัวลงไปแล้วเกินกว่ามาตรฐานที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์กำหนด ซึ่งค่ามาตรฐานคือในเวลา 24 ชั่วโมง ต้องทรุดตัวไม่เกิน 6 มิลลิเมตร แต่ตอนนี้ค่าที่ตรวจสอบได้มากถึง 8 มิลลิเมตร [ads]
อีกทั้งยังพบรอยแตกร้าวที่ผนังอาคารชั้น 2 เพิ่มมากขึ้นด้วย ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก ดังนั้น ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ จึงได้ประกาศห้ามเข้าตัวอาคารเด็ดขาด และยุติการเคลื่อนย้ายของออกจากห้องพักไปเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา
advertisement
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการต่อไปของอาคารหลังนี้ได้มอบหมายให้ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ออกหนังสือคำสั่งรื้อถอนอาคารภายในวันที่ 21 สิงหาคม
จากนั้นในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม ให้เจ้าพนักงานของ อบต.พันท้ายนรสิงห์ (นายก อบต.) เรียกเจ้าของอาคารมารับทราบหนังสือคำสั่งรื้อถอน เพื่อให้เจ้าของอาคารเร่งหาวิศวกรประเมินงาน กับผู้รับเหมาจัดทำออกแบบพร้อมนำเสนอแผนการรื้อให้ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ทราบ เพื่อให้ความเห็นชอบในการรื้อถอนต่อไป
advertisement
ส่วนการรื้อถอนจะมีขึ้นเมื่อไหร่และใช้ระยะเวลารื้อถอนภายในกี่วันนั้น ต้องเป็นไปภายหลังจากที่มีการเสนอแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้รองผู้ว่าฯ ราชการจังหวัดสมุทรสาครได้กำชับต่อทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ว่า
แบบที่รื้อถอนนั้น นอกจากจะต้องสร้างความปลอดภัยต่ออาคารหรือบ้านเรือนที่อยู่ข้างเคียงแล้ว ยังควรที่จะต้องสามารถให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปนำทรัพย์สินของผู้เช่าอาศัย ที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในออกมาได้ด้วย
advertisement
ส่วนสาเหตุของการทรุดตัวนั้น จากการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจ และข้อสรุปของสำนักควบคุมและตรวจสอบอาคารฯ บ่งชี้ว่า สาเหตุไม่น่าจะมาจากเรื่องของการก่อสร้าง แต่เกิดจาก “การวิบัติของฐานราก”
คือ จากข้อเท็จจริงพบว่า ฐานรากบริเวณด้านหลัง ของอาคาร ซึ่งอยู่ติดกับแอ่งน้ำ เกิดการทรุดตัวอย่างทันทีทันใด ทำให้เกิดการดึงรั้งของโครงสร้างอาคาร บริเวณด้านหน้า ส่งผลให้ฐานรากอาคารส่วนที่เหลือทรุดตัวลงมาทั้งหมด ส่วนการวิบัติของฐานรากจะเกิดจากอะไรนั้น ก็ต้องทำการตรวจสอบต่อไปหลังจากที่รื้อถอนอาคารแล้ว
ขอขอบคุณที่มาจาก : khaosod.co.th