เคล็ดลับ! เก็บเงินหมื่นให้ถึงล้าน สำหรับมนุษย์เงินเดือน
advertisement
ชาวมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายส่วนใหญ่มีวิธีจัดการกับเงินเดือนของคุณอย่างไรคะ แบ่งสันปันส่วนเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เอาไปซื้อของที่อยากได้ทันที หรือไม่ค่อยเหลือใช้ เพราะเงินเดือนออกเมื่อไหร่ก็ชำระหนี้สินจนแทบจะหมดกระเป๋า ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณเคยคิดอยากมีเงินเก็บหลักแสนหลักล้านบ้างมั้ยคะ
advertisement
ทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายให้เป็นนิสัย
การที่เราบันทึกทุก ๆ การใช้จ่ายนั้น จะช่วยให้เรารู้ที่มาที่ไปของเงินได้มากขึ้น เช่น บางคนชอบซื้อของกินจุกจิกเยอะมาก บางคนหมดเงินไปกับอาหารมื้อหรู ๆ บางคนก็สนุกสนานกับการช้อปปิ้งเสื้อผ้ามากเกินความจำเป็น ซึ่งการบันทึกรายรับรายจ่ายจะช่วยให้คุณรู้ว่าสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอันไหนได้บ้าง ทำให้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปอย่างสบาย ๆ[ads]
advertisement
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้แบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ เพื่อจัดการเงินเดือนของคุณได้ง่ายมากขึ้น โดยจากเงินเดือนที่คุณได้รับมาอาจจะแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้
– ค่าใช้จ่ายประจำวัน 50%
– เงินออม 25%
– ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 25%
advertisement
ค่าใช้จ่ายประจำวัน/ ประจำเดือน (50%)
ค่าใช้จ่ายประจำวัน ก็คือ ค่าอาหาร ค่าเดินทางไปทำงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ซึ่งเงินตรงนี้หากกันไว้แล้วยังมีเงินเหลือคุณเอาเงินที่เหลือไปปาร์ตี้กับเพื่อน ช็อปปิ้ง ไปใช้ทำอะไรเพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนหย่อนใจ หรือจะเป็นเงินออมเพิ่มเติมจากส่วนที่กันไว้แล้วก็ได้ค่ะ
เงินออม (25%) โดยจะแบ่งเงินออมออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
advertisement
1. เงินออมสำหรับการลงทุน จะแบ่งส่วนนี้ไว้ที่ 10% ของเงินเดือนเพื่อนำไปลงทุน เพราะการประหยัดค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียวนั้นช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่และต้องใช้เวลา ดังนั้นการที่คุณตั้งเป้าจะมีเงินเก็บให้ถึงล้าน ควรมีการแบ่งเงินสำหรับการลงทุนด้วย ซึ่งการลงทุนให้เงินงอกเงยก็จะมีหลากหลาย เช่น กองทุน RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ retirement mutual fund) / LTF (กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ long-term equity fund) ซึ่งได้รับความสนใจจากเหล่ามนุษย์เงินเดือนเป็นอันดับต้น ๆ ส่วนหนึ่งคือนอกจากจะได้ออมเงิน ได้ลงทุน โดยมีความเสี่ยงที่ต่ำแล้วยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย หรืออาจจะลงทุนผ่านหุ้น ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนหลายต่อหลายคนสนใจ ได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างหลากหลายมีตั้งแต่ได้ผลตอบแทนที่สูงมาก ปานกลาง ผลตอบแทนที่ต่ำ หรือขาดทุนเลยก็มี ซึ่งตรงนี้จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยค่ะ
advertisement
2. เงินออมระยะยาว แบ่งเงินเดือนไว้สำหรับส่วนนี้ 15% เพื่อเป็นเงินสำรองที่สามารถใช้ได้ทันที อาจในกรณีเจ็บป่วย หรือไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด หรือต่างประเทศได้ ซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ เช่น ซื้อรถ คอนโด หรือบ้าน ก็ถือเป็นการให้รางวัลกับตัวเองที่ดีค่ะ
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (25%) อาจแบ่งเงินส่วนนี้ เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้[ads]
1. เงินตอบแทนพ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณ แบ่งออกจากเงินเดือน 10% เพื่อเป็นเงินตอบแทนพ่อแม่ทุก ๆ เดือน
advertisement
2. ค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนรู้ ก็คิดเป็น 10% ของเงินเดือนเช่นกัน เผื่อไว้สำหรับซื้อหนังสือเพิ่มเติมความรู้ ลงคอร์สที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน การเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือการลงคอร์สฝึกอาชีพต่าง ๆ ที่คุณสนใจ เพื่อต่อยอดหรือเพื่อพัฒนาตัวเอง
3. เงินสำหรับการบริจาค อาจจะแบ่งไว้ 5% ของเงินเดือน คนทำงานบางคนมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เงินในส่วนนี้จะเป็นเงินที่ช่วยเติมเต็มความสุขนั้นค่ะ
advertisement
วิธีแบ่งส่วนเงินเดือนข้างต้นนี้เป็นวิธีแนะนำ ซึ่งคุณอาจแบ่งส่วนเงินเดือนตามความเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายของคุณ แล้วการเก็บเงินหมื่นให้ถึงล้านก็จะไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่อาศัยการบริหารจัดการเงินของตัวเองให้ดี ซึ่งคุณอาจจะ พร้อมทั้งอาศัยความมีระเบียบวินัยในการใช้จ่าย รู้จักหาช่องทางในการลงทุนเพิ่มเติมรับรองหากทำตามนี้แล้วเงินเก็บหลักล้านไม่ไปไหนแน่ ๆ ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : variety