เข้าใจตรงกันนะ!! ‘อ.อ๊อด’ ออกมาเผย ‘โทรศัพท์ระเบิด’ เกิดขึ้นได้ในกรณีไหนบ้าง พร้อมเผยวิธีป้องกัน!!
advertisement
นับว่ากำลังเป็นข่าวดังในช่วงนี้เลยก็ว่าได้สำหรับ กรณีเพจดัง "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้ออกมาโพสต์เผยแพร่เรื่องราวจากลูกเพจท่านหนึ่ง เป็นเหตุการโทรศัพท์มือถือระเบิดในขณะที่เก็บไว้ในกางเกงยีนส์ หลังผู้เสียหายได้นำโทรศัพท์เก่าระบบ 2G ไปแลกเป็นโทรศัพท์ 4G จากค่ายโทรศัพท์มือถือหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
advertisement
ล่าสุด รองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า กรณีนี้หากวิเคราะห์จากรูปภาพ ตัวเครื่องยังปกติ แต่ส่วนที่ระเบิดหรือลุกไหม้คือแบตเตอรี่
advertisement
ตามหลักแบตเตอจะบรรจุกระแสไฟฟ้า มีแรงอัด และมักก็จะมีปฏิกริยาเคมีภายในแบตเตอรี่ ส่วนแบตเตอรี่โทรศัพท์เป็นแบตเตอรี่เซลล์แห้ง สามารถนำมาชาร์ตใหม่ได้ ถ้าเกิดการลัดวงจร เกิดความร้อน ก็จะเกิดการขยายตัว และระเบิดในที่สุด[ads]
advertisement
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความร้อน บวม ระเบิด อันแรก คือ ชนิดของแบตแห้ง ส่วนใหญ่จะใช้ลิเทียมไออน และแคชเมียม แต่ราคาสูง ถ้าเปลี่ยนโลหะเป็นธาตุตัวอื่น ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง เช่น ตะกั่ว หรือ เจล แต่คุณภาพก็ลดลงด้วย จึงเป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ที่ให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ฟรี ก็อาจจะใช้ชนิดแบตที่ราคาถูก เพื่อลดต้นทุน
advertisement
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากแหล่งผลิต หรือมาจากโรงงานที่ด้อยคุณภาพ และสุดท้ายคือการใช้งานของผู้บริโภคเอง เช่น ชาร์ตไปด้วยเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ซึ่งอาจะทำให้เกิดเหตุดังกล่าวได้
advertisement
ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะในโทรศัพท์โลคอสเท่านั้นที่อาจจะใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะก่อนหน้านี้มีมือถือยี่ห้อดังรุ่นหนึ่งถูกประกาศห้ามนำขึ้นเครื่องบินมาแล้ว เพราะมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เช่นกัน
advertisement
ส่วนความรุนแรงของแบตเตอรี่ที่ระเบิด ขึ้นอยู่กับแรงอัด จากกรณีนี้เท่าที่สังเกตุ คิดว่าผู้ใช้หันแบตเตอรี่ออกมาด้านนอกทำให้เกิดรอยขาดที่กางเกง แต่ถ้าหันแบตเตอรี่เข้าด้านในจะโดนเนื้อเต็มๆ ผิวหนังไหม้ได้ อวัยวะเพศชายอาจจะเกิดการฉีกขาดได้ แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต[ads2]
advertisement
อาจารย์อ๊อด ยังบอกด้วยว่า โทรศัพท์ทุกเครื่อง ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มีโอกาสที่แบตเตอรี่จะระเบิดได้เช่นกัน ดังนั้นจึงแนะนำว่า หากใช้โทรศัพท์แล้วรู้สึกอุ่นๆ หรือร้อนให้หยุดใช้ และถ้าแบตโทรศัพท์หมดเร็วกว่าปกติก็ให้รีบเปลี่ยน
วันนี้ไข่เจียวขอเพิ่มเติม วิธีป้องกันจากการระเบิดของแบตเตอรี่โทรศัพท์มาให้อ่านกันด้วย
1.ปัจจัยหลักที่จะบ่งบอกได้ว่า แบตเตอรี่จะใช้ได้ยาวนาน หรือเสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม สำหรับแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน นั้น ควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่ เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด ยิ่งเราปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อยๆ ยิ่งทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมากขึ้นเท่านั้น
2.อย่าพยายามชาร์จจนเต็ม 100% เพราะนั่นก็คือเป็นสาเหตุที่ทำให้ แบตเตอรี่ค่อยๆ เสื่อมอายุลง ฉะนั้น ถ้าหากแบตเตอรี่ลดลงถึงระดับ 40% ก็ควรจะหยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้ว และควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90%
advertisement
3.อย่าเสียบชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน หรือถ้าต้องการชาร์จให้เต็ม 100% ควรจะทำแค่เดือนละหนก็พอ
4.เมื่อชาร์จแบตเต็มแล้วก็ควรรีบถอดที่ชาร์จออก: เนื่องจากสถานะการชาร์จแบตเต็มนั้นก็เหมือนกับกล้ามเนื้อของเราที่กำลังตึงเครียดอยู่ การที่เราถอดที่ชาร์จออกจะช่วยทำให้แบตเตอรี่ “ผ่อนคลาย” และไม่มีแรงดันสูง[ads3]
5.เราควรจะปล่อยให้พลังงานแบตเตอรี่เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด แต่เนื่องจากทุกคนไม่สามารถทำตามได้ ที่ดีที่สุดก็คือมีเวลาก็หยิบสายออกมาชาร์จกันได้แล้วและควรจะชาร์จให้อยู่ที่ระดับ 90%
6.อย่าปล่อยให้มือถือร้อนเกินไป: ถ้าคุณรู้สึกว่ามือถือของคุณร้อนมาก เวลาชาร์จแบตให้ถอดเคสออกจะดีกว่า เพื่อให้มือถือสามารถระบายความร้อนได้และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้มือถือไปโดนแสงแดดนะ
ไปชมคลิปกันเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะเพื่อนๆ สำหรับใครที่กำลังใช้โทรศัพท์ก็ระวังกันด้วยนะคะ เพราะแม้ว่าโทรศัพท์ของคุณจะดีหรือซื้อมาแพงแค่ไหนหากไม่มีการดูแลรักษาที่ดีก็อาจเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกได้นะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : AMARIN TVHD