รู้จักแหล่งเชื้อโรคในห้องน้ำ..ต้นเหตุทำสุขภาพพัง!!
advertisement
พูดถึงเรื่องของเชื้อโรคแล้ว เราสามารถพบได้ในทุกๆ ที่ โดยเฉพาะในห้องน้ำมีเชื้อโรคร้ายแฝงตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื้อโรคที่อยู่ในห้องน้ำส่วนใหญ่เกิดจากการปนเปื้อนของสิ่งปฏิกูล อย่าง อุจจาระ ปัสสาวะ ร่วมกับความอับชื้น ส่งผลให้เชื้อโรคสามารถอาศัยอยู่ในห้องน้ำได้เป็นเวลานาน ก่อตัวหมักหมมเป็นเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียที่อันตราย ก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ห้องน้ำเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคค่ะ
advertisement
ระวัง! เชื้อโรคในห้องน้ำ
– โรคติดต่อทางเดินอาหารจาก เชื้อราที่อยู่ในห้องน้ำ เป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อซาลโมเนลล่า ซึ่งมักจะพบปนเปื้อนในอุจจาระได้บ่อยๆ หากได้รับเชื้อนี้เข้าไป อาจทำให้มีอาการไข้ ปวดท้อง และท้องเสีย ในกรณีผู้ป่วยภูมิต้านทานต่ำ อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้
– เป็นเหตุทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด มีอาการกำเริบได้
– สำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำแล้ว เชื้อราดังกล่าว อาจทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงและฝีในสมองได้
– เชื้อเอชพีวี เนื่องจากเวลาปัสสาวะแล้วมีการสัมผัสอวัยวะเพศของตนเอง ทำให้เชื้อที่มีอยู่ติดมือ เมื่อมาจับสิ่งของต่างๆ ต่อจึงทำให้ในห้องน้ำมีเชื้อดังกล่าว แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าการนั่งบนส้วมที่มีเชื้อเอชพีวีจะทำให้ติดเชื้อแล้วเป็นมะเร็งปากมดลูก เพราะเชื้อไม่สามารถเข้าถึงช่องคลอดได้ แต่ระวังจะเป็นหูดมากกว่า
ห้องน้ำเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค แต่เราก็จำเป็นต้องใช้ห้องน้ำทุกวัน วันละหลายๆ รอบ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้เท่าทันจุดที่มีเชื้อโรคหมักหมมหรือก่อตัว ด้วยการหมั่นทำความสะอาดแหล่งเพาะเชื้อโรคเป็นประจำ เพื่องป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายทำให้เจ็บป่วยได้
[ads]
1) ฝักบัวอาบน้ำ พบเชื้อแบคทีเรียมาย เช่น โคแบคเทอเรียมเอเวียม (Mycobacterium avium) หรือเอ็มเอเวียม (M.avium) สะสมอยู่ เมื่อเปิดใช้ฝักบัวแบคทีเรียก็จะไหลมาตามสายน้ำลงมาสู่ใบหน้า และร่างกาย ก่อให้เกิดโรคปอดซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเมื่อติดเชื้อทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการเหนื่อย ไอแห้งหายใจลำบากเรื้อรังและหมดแรง เชื้อนี้เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคในปอด ทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ที่บำบัดมะเร็ง
ทำควมสะอาดฝักบัว : ให้ถอดหัวฝักบัวออกแล้วใช้แปรงสีฟันขัดคราบสกปรกออก โดยใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานขัดออกหรือจะใช้มะนาวผ่าครึ่งซีกถูก่อนแปรง สำหรับฝักบัวที่ถอดไม่ได้ให้นำถุงพลาสติกใส่น้ำส้มสายชูพอท่วมฝักบัว เอาฝักบัวใส่ไว้ในถุงน้ำส้มสายชูแล้วผูกถุงให้แน่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำฝักบัวออกมาล้างน้ำสะอาดก็จะได้ฝักบัวที่สะอาดและน้ำไหลได้สะดวกด้วย และควรเลือกใช้ฝักบัวโลหะ เนื่องจากจุลินทรีย์เติบโตในวัสดุประเภทนี้ได้ยาก
advertisement
2) ใยขัดตัวหรือฟองน้ำถูตัว ใช้ถูตัวเป็นสิ่งที่ใช้ชำระความสกปรกตามซอกต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งต้องเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี โดยเฉพาะเชื้อราที่แบ่งตัวได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูงโดยสปอร์ของมันจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ปฏิกิริยาภูมิแพ้ โรคหอบหืด ปอดอักเสบก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อตา จมูก หลอดลม ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน
ทำความสะอาดใยขัดตัวหรือฟองน้ำถูตัว : ซักใยขัดตัว ฟองน้ำถูตัวด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้แล้วควรแขวนตากให้แห้งเสมอ และควรเลือกฟองน้ำถูตัวที่ไม่หนามาก
3) ผ้าม่านพลาสติก คราบสีดำที่เกาะอยู่กับผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำนั้น อาจจะเป็นเชื้อรา แบคทีเรียชนิดหนึ่งละอองจากการเรอ ไอ และจามของคนจะช่วยทำให้แบคทีเรียชนิดนี้เติบโตขึ้น
ทำความสะอาดผ้าม่านพลาสติก : ควรถอดผ้าม่านพลาสติกไปซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค อาทิตย์ละครั้ง หรือ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
4) ผ้าเช็ดมือ-เท้า ด้วยเปียกชื้นตลอดเวลาจึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ของเชื้อรา
ทำควมสะอาดผ้าเช็ดมือ-เท้า : ควรแขวนผ้าเช็ดมือ-เท้าหรือวางไว้ที่ลมผ่านหรือนำมาตากให้แห้งหลังใช้งานทุกครั้ง
5) แปรงสีฟัน อุปกรณ์ของส่วนตัวที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในช่องปากซึ่งในห้องน้ำมีเชื้อโรคหลายชนิด หนึ่งในเชื้อโรคนั้นคือ เชื้อโรต้าไวรัสและเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสที่ติดโดยการสัมผัสผ่านทางจมูกและปาก
ทำความสะอาดแปรงสีฟัน : ต้องเก็บแปรงสีฟันไว้ในกล่องมีรูระบายอากาศ เพื่อป้องกันความเปียกชื้นและล้างแปรงสีฟันทุกครั้งก่อนแปรงฟัน
6) อ่างล้างหน้า เป็นจุดที่อุดมไปด้วยเชื้อโรคนานาชนิด โดยเฉพาะแบคทีเรีย ที่ชอบความเปียกชื้นเป็นพิเศษ อาจมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายต่างๆ อาศัยอยู่ด้วย
ทำความสะอาดอ่างล้างหน้า : ทำความสะอาดขัดล้างอ่างล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
7) ชักโครก เพราะเราขับถ่ายของเสียจากร่างกายใส่ในชักโครก การทำธุระส่วนตัวแต่ละครั้งมีเชื้อโรคแพร่กระจาย อีกทั้งฝารองนั่งก็มีเชื้อโรคต่างๆ แฝงอยู่ด้วย
ทำความสะอาดชักโครก : ใช้น้ำหมักชีวภาพเทลงชักโครกทุกอาทิตย์ และทำความสะอาดชักโครกอย่างทั่วถึงด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน
8) พรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ ทุกครั้งที่เราเหยียบย่ำเข้า-ออกห้องน้ำ ก็จะมีความชื้นสะสม และก่อตัว รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อรา
ทำความสะอาดพรมเช็ดเท้า : ควรซักล้างให้สะอาดด้วยผงซักฟอกและตากให้แห้งสนิททุกวัน หรือ 2 วัน โดยควรมีผืนที่แห้งคอยสลับเปลี่ยนในการใช้งาน
[ads]
นอกจากนั้นแล้วการใช้ห้องน้ำสาธารณะก็เรื่องที่สำคัญที่ต้องระมัดระวังในเรื่องของความสะอาด ทำได้ดังนี้
– เลือกใช้ห้องสุขาที่ดูสะอาดที่สุดรวมทั้งโถชักโครกด้วย
– หลีกเลี่ยงฝารองนั่งที่เปียกชื้น และห้องที่ยังเห็นสิ่งปฏิกูลของผู้อื่นค้างอยู่
– ทำความสะอาดฝารองนั่งควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณฝารองนั่งให้สะอาด หรือใช้กระดาษชำระรองก่อนนั่ง หรือใช้วิธีย่อขาเหมือนนั่งยองยกก้นให้อยู่เหนือโถรองนั่งประมาณ 6 นิ้ว
– ระวังเวลาถอดกางเกงไม่ให้ลงมากองที่พื้นห้องน้ำ
– เมื่อเสร็จธุระแล้วควรปิดฝาก่อนกดชักโครก เพื่อลดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคในอากาศ ที่อาจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้
– เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ และเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษที่เตรียมไว้
– หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเป่ามือแบบร้อน เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนพื้นห้องน้ำเจริญเติบโตได้ดีมาก
– ทำความสะอาดลูกบิดประตูด้วยกระดาษเช็ดมือ
ห้องน้ำที่ดีและปลอดภัยปราศจากเชื้อโรคต่างๆ อันก่อปัญหาสุขภาพ ต้องมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ไม่ควรมีกลิ่นเหม็น หรือ มีคราบสกปรกปรากฏให้เห็น และนอกเหนือจากการทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำแล้ว อย่าลืมล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธีหลังการใช้ห้องน้ำในทุกๆ ครั้งเลยนะคะ จะช่วยป้องกันไม่ให้เราติดเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่งด้วย
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com