ฝนตกชุก แพทย์เตือนใส่เสื้อผ้าเนื้อหนา รัดรูป เสี่ยงอับชื้นก่อโรคผิวหนัง

advertisement
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยฝนตกชุกและมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เป็นสาเหตุทำให้เชื้อโรคหลายชนิด แพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง
โดยโรคที่พบได้บ่อย คือ โรคน้ำกัดเท้า ซึ่งเกิดจากการแช่น้ำหรือเดินย่ำน้ำนานเกินไปจนเป็นเหตุให้ผิวหนังเปื่อย ยุ่ย และเกิดอาการระคายเคือง โรคเท้าเหม็น มักพบในผู้ชายที่มีเหงื่อเยอะหรือใส่ถุงเท้าที่ทำจากใยสังเคราะห์หนาๆ ซึ่งเวลาถอดรองเท้าอาจมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา ผื่นภูมิแพ้ การอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อนเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการคันและผิวหนังอักเสบได้ง่าย นอกจากนี้ ผู้ที่ออกกำลังกาย เหงื่อออกหรือตากฝนแล้ว ไม่อาบน้ำ ทำให้ร่างกายชื้นแฉะเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้เกิด โรคเกลื้อน โดยจะมีลักษณะเป็นวงด่างๆ สีขาวหรือสีเนื้อ ในบางคนอาจขึ้นเป็นวงสีน้ำตาลร่วมกับมีขุยสีขาวเล็กๆ มักขึ้นบนผิวหนังบริเวณหน้าอกและลำตัว อาจมีอาการคันร่วมด้วย [ads]
advertisement

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมในช่วงหน้าฝนถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะต้องมีเส้นใยบางเบา สวมใส่สบาย แห้งง่าย การใส่ผ้าเนื้อหนาๆรัดรูปจนเกินไป จะทำให้เกิดการเสียดสี ความชื้น ผิวหนังมีเหงื่อออกมาก ทำให้เชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้เกิดอาการแพ้เสื้อผ้าตามมา โดยอาการทั่วไปมักพบเป็นผื่นคันตามจุดที่อับชื้น เช่น ผู้ที่ชอบที่สวมเสื้อแขนรัด จะพบผื่นตามด้านหน้า ด้านหลังของรักแร้ ผู้ที่ชอบสวมกางเกงรัดๆ กางเกงยีนส์ มักพบผื่นบริเวณขาหนีบ เป็นต้น นอกจากการติดเชื้อที่ผิวหนังแล้ว ยังทำให้เกิดกลิ่นอับ กลิ่นตัว เพราะเหงื่อจะระเหยได้ยาก สำหรับเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย คือ ผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าฝ้าย เพราะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สวมใส่สบาย แห้งง่าย ส่วนเนื้อผ้าที่ต้องระวัง คือผ้าขนสัตว์ ผ้าไนลอน เพราะทำให้ผิวหนังเกิดระคายเคือง โดยมากมักเกิดผดผื่นคัน เพราะเนื้อผ้าจะกันเหงื่อไม่ให้ระเหยออกมา [ads]
advertisement

วิธีป้องกันอาการแพ้เสื้อผ้า คือ การซักเสื้อผ้าให้สะอาด และนำมาผึ่งแดดจนแห้งสนิท โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ ควรทำความสะอาดและตากแดดให้แห้งสนิทจริงๆ เพราะเนื้อผ้าประเภทนี้หากเปียกน้ำ มักแห้งช้ากว่าผ้าปกติทั่วไป ทำให้เกิดความอับชื้นและอาจเป็นที่มาของเชื้อโรคได้
สิ่งสำคัญคือ การดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ เช่น ข้าวโพด แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ และเมื่อเกิดความผิดปกติของผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง
ขอขอบคุณที่มาจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข