แนะ กินไข่ – ดื่มนมจืด แหล่งโปรตีน แคลเซียม ช่วยสร้างส่วนสูงเด็กไทย สูงวัยลดเสี่ยงกระดูกพรุน
advertisement
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะคนไทยทุกกลุ่มวัยกินไข่ได้วันละฟอง และดื่มนมจืดวันละ 1 – 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนและแคลเซียมที่จำเป็น ช่วยเสริมสร้างพลังงาน สร้างความแข็งแรงและส่วนสูงกับเด็กไทย และลดภาวะโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ
advertisement
ซึ่งผู้บริโภคควรกินไข่ควบคู่กับอาหารที่หลากหลายในแต่ละมื้อ โดยให้มีอาหารประเภทแป้ง ธัญพืช เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผักและผลไม้สดจะช่วยในการกักเก็บน้ำตาลและคอเลสเตอรอล จึงช่วยลดการดูดซึม และควรเลี่ยงการกินไข่ดิบ เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนไข่ขาวที่ไม่สุกจะขัดขวางการดูดซึมไบโอตินซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งในลำไส้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินบีไปใช้ประโยชน์ได้ จึงได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่ และสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟันที่ไม่สามารถกินอาหารโปรตีนอื่นได้ แนะนำให้ให้กินไข่เป็นแหล่งของโปรตีน แต่ในคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูงในบางมื้ออาจหลีกเลี่ยงการกินไข่แดง
advertisement
"นอกจากนี้ วัยเด็กและผู้สูงอายุ ควรดื่มนมเป็นประจำ โดยเฉพาะนมจืดเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีที่มีแคลเซียมในปริมาณสูง เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะนมสดรสจืดมีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งด้วยน้ำตาลและกลิ่น เนื่องจากมีแคลเซียมในปริมาณมาก ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กด้านความสูง โดยเด็กวัยเรียนควรดื่มนมวันละประมาณ 2 – 3 แก้ว และในวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องการสารอาหารเพิ่ม เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและชะลอการสูญเสียมวลกระดูก ป้องกัน โรคกระดูกพรุน แนะนำให้ดื่มนมจืดวันละ 1 – 2 แก้ว ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อาทิ ภาวะอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ควรดื่มนมชนิดพร่องมันเนย หรือขาดมันเนยเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไขมันเกิน วันละ 1 – 2 แก้ว” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย