ไขทุกข้อสงสัย!! เกี่ยวกับ “ยาคูลท์” นมเปรี้ยมขวดจิ๋ว กับคำถามที่หลายคนสงสัยมาทั้งชีวิต
advertisement
นมนี้ก็ยังเหมือนเดิม แถมดื่มกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ก็แอบแฝงไว้ด้วยคำถามมากมาย ที่คนชอบสังเกตต่างตั้งข้อสงสัย อาทิ ทำไมไม่เปลี่ยนขนาดขวดบ้าง ทำไมไม่มีแบบกล่อง และคำถามอื่นๆอีกมากมาย วันนี้ไข่เจียวจะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับยาคูลท์กันแบบหมดเปลือก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
advertisement
2) ในขวดยาคูลท์มีอะไรบ้าง ? – นมคืนรูปขาดมันเนย 50% – น้ำตาล 18% – จุลินทรีย์กรดนม (แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า) ในยาคูลท์ 1 ขวด (80 cc.) มีจุลินทรีย์ชิโรต้าที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 8 พันล้านตัว
advertisement
4) ยาคูลท์แทนที่โยเกิร์ตได้หรือไม่ ? ทั้งยาคูลท์ และ โยเกิร์ต จัดเป็นนมเปรี้ยวเช่นเดียวกันซึ่งได้มาจากการหมักนมด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิต แต่สำหรับยาคูลท์มีคุณลักษณะพิเศษที่ว่า ใช้จุลินทรีย์ชิโรต้า Lactobacillus Casei Shirota Strain ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะของทางยาคูลท์ที่ต่างจากแบคทีเรียที่ใช้ในโยเกิร์ต และยาคูลท์ถูกผลิตขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่จะให้จุลินทรีย์ชิโรต้า ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ อันจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
advertisement
advertisement
7 เด็ก – สตรีมีครรภ์กินได้หรือไม่?เด็กอายุมากกว่า 1 ปีสามารถดื่มได้ แต่ไม่แนะนำให้เด็กที่มีประวัติแพ้นมวัวดื่ม ส่วนผู้หญิงสามารถดื่มได้ แถมยังให้ผลดีอีกด้วย เพราะในยาคูลท์มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อดื่มแล้วอาการท้องผูกหรืออาหารไม่ย่อยในระหว่างตั้งครรภ์จะหายไป รวมไปถึงผู้รับประทานมังสวิรัติที่สามารถดื่มยาคูลท์ได้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการที่สมดุลต่อร่างกาย
advertisement
9) ขวดยาคูลท์ทำจากอะไร!? ขวดยาคูลท์ทำมาจากพลาสติก Polystyrene ที่สามารถใช้บรรจุอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสามารถย่อยสลายได้ ส่วนวัสดุปิดฝาขวดคือ Aluminum Foil ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
10) ไม่ต้องแช่ตู้เย็นได้ไหม ? ยาคูลท์ ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 oC เพื่อคงคุณภาพของยาคูลท์ และถึงแม้จะนำยาคูลท์มาแช่แข็ง Lactobacillus Casei Shirota Strain จะยังมีชีวิตอยู่
advertisement
12) เพราะอะไรยาคูลท์ถึงต้องซื้อกับสาวยาคูลท์เท่านั้น/> เพราะกระบวนการผลิตที่หลากหลายขั้นตอน ทำให้ยาคูลท์ผลิตได้ไม่เพียงพอ และบริษัทเองก็มีนโยบายไม่ให้สาวยาคูลท์ตกงาน
13) ที่มาของวลี "ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ" ? สาวยาคูลท์เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1963 และเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อยาคูลท์ในอดีตนั้นเป็นแม่บ้าน การมีคนส่งยาคูลท์เป็นผู้หญิงก็จะมีการแนะนำเรื่องสุขภาพให้กัน และสาวยาคูลท์ส่วนมากก็จะมีความรู้รอบตัวที่แน่น ถามอะไรก็ตอบได้หมด เลยเป็นที่มาของวลีฮิต "ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ"[ads]
advertisement