ไอเดียสุดเจ๋ง! ปลูกผักในกระถาง..พื้นที่น้อยก็ทำได้!!
advertisement
วิธีง่ายๆปลูกผักทานเองในพื้นที่จำกัด และลงทุนน้อย หลายๆ ท่านที่อยากปลูกผักไว้รับประทานเอง แต่มีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ จำเป็นที่จะต้องคำนึงในเรื่องการปลูกดังนี้
advertisement
– หากมีพื้นที่ปลูกไม่มากจึงควรปลูกผักให้มากชนิด แต่ละชนิดให้เพียงพอต่อการกินในแต่ละมื้อ
– หากไม่มีพื้นที่ที่เป็นดิน สามารถปลูกได้ในภาชนะต่างๆ
– เลือกใช้วัสดุปลูกที่ร่วนซุย น้ำหนักเบา และอุ้มน้ำได้ดี
– เลือกปลูกผักที่การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่มีกลิ่นฉุน ต้นไม่สูงเกินไป
advertisement
– ผักที่ได้มักจะเป็นผักที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผักที่ปลูก เช่น ผักบุ้งจีน คะน้า กะเพรา โหระพา แมงลัก พริกขี้หนู มะเขือเปราะ ผักปลัง สะระแหน่ ผักกาดหอม ชมจันทร์ ผักชี ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ยี่หร่า เป็นต้น[ads]
– การปลูกใส่ภาชนะ ต้องให้น้ำบ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะไม่มาก เพราะน้ำจะแห้งเร็วกว่าปลูกลงดิน
– การให้ปุ๋ย อาจให้ได้ทั้งในรูปปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยเคมี ในปริมาณที่เหมาะสม
– สารกำจัดโรคแมลง ทำได้โดยการเด็ดใบที่เป็นโรคทิ้ง การบี้ทำลายแมลงหรือหนอน หรือใช้ชีวภัณฑ์ เช่น สารสกัดจากสะเดา น้ำสบู่ น้ำแช่ยาฉุน
advertisement
การเพาะเมล็ด
อุปกรณ์ ภาชนะที่จะนำมาเพาะ เช่น ถาดเพาะ ตะกร้า กระถาง ต้องเป็นภาชนะที่สามารถระบายน้ำได้ดี วัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์
1. เลือกชนิดของผักที่ต้องการปลูก
2. ทำวัสดุปลูกให้ชื้นก่อน (อาจเป็นขุยมะพร้าวผสมปุ๋ยหมัก (4: 1) หรือใช้พีทมอส วัสดุปลูกสำเร็จต่างๆ หรือดินหมักก็ได้)
3. จากนั้นนำวัสดุปลูกใส่ลงในถาดเพาะ แล้วใช้ไม้เล็กๆ หรือนิ้วมือขีดวัสดุปลูกให้เป็นร่องตื้นๆ
4. หยอดเมล็ดพันธุ์ผักลงไป รดน้ำให้ชุ่ม 2 ครั้ง เช้า-เย็น
– เมล็ดพันธุ์ผักส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการงอกประมาณ 4-7 วัน
– เมล็ดพันธุ์ผักที่มีเปลือกแข็ง เช่น บวบ มะระ อาจใช้กรรไกรตัดเล็บตัดบริเวณเปลือกเล็กน้อย (ตรงข้ามด้านที่รากจะงอก) เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดีขึ้น
advertisement
การทำดินหมัก
การทำดินหมักเพื่อให้ดินระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการปลูกผักในกระถาง (สามารถทำเองได้) ส่วนประกอบดังนี้[ads]
– ปุ๋ยคอก
– เศษผัก
– กากน้ำตาลน้ำตาลทราย
– หัวเชื้อจุลินทรีย์ (EMหรือน้ำหมักชีวภาพ)
– ดินที่มีอยู่ หรือ ดินถุง
นำส่วนประกอบทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน (ความชื้น 60-70% ) คลุมกองดินหมักด้วยผ้าใบหรือผ้าพลาสติกเพื่อไม่ให้โดนน้ำฝน ในระยะแรกกองดินหมักจะเกิดความร้อนขึ้น ให้หมั่นกลับกองดินหมัก และหมักไปเรื่อยๆ จนไม่มีความร้อนหลงเหลืออยู่ จึงสามารถนำดินไปใช้เพาะเมล็ดหรือปลูกต้นไม้ต่อไปได้
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : เกษตร อินเตอร์เชียงใหม่