สายดริ้งค์ห้ามพลาด!! กับสูตรการมิกซ์วิสกี้ตระกูล “Johnnie Walker” ที่ถูกต้องและถูกปาก รับรองว่าเด็ด
advertisement
เชื่อว่าสายดริ้งค์ทั้งหลาย คงไม่มีใครไม่รู้จัก บรรดาวิสกี้ของตระกูล Johnnie Walker เป็นแน่ ด้วยราคาระดับกลางๆ และสามารถหาซื้อได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมของสายดริ้งค์คอสูง ที่นิยมกันสำหรับคนไทยก็คงจะเป็น Red lebel และ Black lebel แต่วิสกี้ตระกูลนี้มีมากมายหลายชนิด แถมยังมีสูตรการมิกซ์กับมิกเซอร์ต่างๆให้รสชาติดียิ่งขึ้นอีกด้วย วันนี้ไข่เจียวจึงนำสูตรการมิกซ์วิสกี้ตระกูลนี้มาฝากกันค่ะ บอกก่อนเลยว่าคอดริ้งค์ห้ามพลาด
1.Red Label จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล นี่น่าจะเป็นวิสกี้ที่ถูกใจคนไทยมากที่สุด ก็เพราะด้วยเป็นรุ่นน้องเล็กในตระกูล สามารถกินได้นานสนุกได้นาน อารมณ์แบบกึ่ม ๆ และอยู่กินสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้นานแถมวิธีการกินนั้นก็ต้องผสมกับเหล่าบรรดา “มิกเซอร์” ทั้งหลายตามแบบฉบับที่คนไทยคุ้นเคยซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นการผสมกับโซดา น้ำแข็ง ชามะนาว หรือแม้แต่น้ำอัดลมเพื่อให้ได้รสชาติที่แต่ละคนชื่นชอบ เรดเลเบิ้ลนี้ถือเป็นวิสกี้ระดับที่ขายดีที่สุด [ads]
2.Black Label จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล เป็นระดับวิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิคด้วยระยะเวลาบ่มถึง 12 ปี วิธีการดื่มวิสกี้ระดับนี้ที่ถูกต้องนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเรียบง่าย ดูดีแบบ “ออน เดอะ ร็อก” หรืออีกอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือการกินแบบผสมกับน้ำแข็งเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าหากใครที่ชื่นชอบการผสมกับมิกเซอร์แล้วหละก็จะต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะ ๆ วิสกี้ประมาณครึ่งแก้วและโซดาอีกครึ่งแก้วเพียงแค่นี้ก็จะได้สัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงของ Black Label
3.Green Label จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล นี้จะมีการจัดหน่ายแบบจำกัดประเทศ แต่ก็ใช่ว่าจะหาทานได้ยากสำหรับคนไทยซะอย่างจะต้องหามาชิมให้จงได้ การดื่มวิสกี้ระดับกรีน เลเบิ้ลก็เพียงแต่หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆ สักก้อนใส่ลงในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียวเท่านั้นนะขอย้ำ จากนั้นก็รินกรีน เลเบิ้ลลงไปเพียงเล็กน้อยระดับไม่ต้องท่วมน้ำแข็งแกว่งแก้วเล็กน้อยให้วิสกี้ถูกแตะสัมผัสกับความเย็นของก้อนน้ำแข็งในแก้ว ก่อนดื่มดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มอรรถรส จากนั้นก็เริ่มดื่มจิบเล็กน้อยก็จะได้ทั้งรสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนให้น่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก
4.Gold Label จอห์นนี่ วอล์เกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล นี้ดูท่าจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อย ๆ นัก ก็เพราะด้วยราคาและท้องตลาดนั้นหาซื้อได้ยาก อายุวิสกี้ในการหมักบ่มใช้เวลาถึง 18 ปี การดื่มแบบขั้นเทพต้องนำวิสกี้ Gold Label นี้ไปแช่ในช่องแช่แข็ง (ช่องฟรี๊ส) สัก 24 ชั่วโมง พร้อมกับแก้ทรงสูงเปล่า ๆ วางแช่ไว้ข้าง ๆ กัน เมื่อถึงเวลาที่จะดื่มก็เพียงแต่นำมารินใส่แก้วที่แช่เอาไว้แล้วดื่มเข้าไปแบบเพียว ๆ เลยในทันที ก็จะได้อรรถรสและเข้าถึงรสชาติอย่างถ่องแท้ ก็เพราะด้วยทันทีที่วิสกี้เย็นจัดเจอกับความอุ่นในปากเรา ทั้งกลิ่นที่หอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวลไปทั่วทั้งปาก ถ้าจะให้ดีหาช็อกโกแลตดี ๆ ไว้กินแกล้มเข้าคู่กันรับรองได้ว่ารสชาติเกินจะบรรยายสุขแท้ในการกินวิสกี้ระดับนี้เลยหละ [ads]
advertisement
5.Blue Lable จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล ต้องขอตบท้ายด้วยวิสกี้ชั้นสูงอายุบ่มถึง 25 ปีจากมอลต์คุณภาพสูง แน่นอนว่าการดื่มวิสกี้ระดับนี้จะต้องเลิศหรูดูน่าสนใจและชวนให้ลิ้มลองเป็นอย่างมาก สเต็ปขั้นเทพในการกินวิสกี้ระดับนี้ก็เพียงแต่ให้คุณนำแก้วเปล่ามา 2 ใบวางคู่กัน แก้วนึงรินวิสกี้รอเอาไว้ส่วนอีกแก้วก็รินน้ำแร่เย็น ๆ ก่อนอื่นเราต้องดื่มน้ำแร่เย็น ๆ เพื่อเป็นการปรับอุณหภูมิภายในช่องปากกันก่อนจากนั้นก็ให้จิบบลู เลเบิ้ลเมื่อบลู เลเบิ้ล ผสมกับน้ำแร่ในปากที่หลงเหลือเล็กน้อยก็จะได้รสชาติที่ผสมกันอย่างลงตัวชนิดที่ว่ารสชาติที่แอบซ่อนอยู่นั้นต้องออกมาให้เราสัมผัสได้ทั้งหมด
เปรี้ยวปากกันเลยใช่มั้ยคะ สายดริ้งค์ได้รู้เทคนิกการมิกซ์ดีๆแล้ว อย่าพลาด ต้องลองซักครั้งแล้วจะติดใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : maipaimairoo.com เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com