7 เทคนิค กินของหวานอย่างไร? ไม่ให้อ้วน!!
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/กินของหวานแบบไม่อ้วน.gif)
advertisement
พูดถึงเรื่องของหวาน แล้วก็อยากขึ้นมาทันที!! สาวๆ หลายคนก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ว่าชอบทานของหวานกันแค่ไหน ไม่มากก็น้อยล่ะนะ แต่อย่าลืมค่ะ ว่าบรรดาของหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแลต ขนมเค้ก คุ้กกี้ ไอศกรีม ฯลฯ รสชาติหวานๆ อร่อยกลมกล่อมเหล่านี้ เปี่ยมไปด้วยปริมาณน้ำตาลและแคลอรีมากมาย! อ้วนแน่นอน! แต่อย่าได้กังวลใจไปค่ะ Kaijeaw.com บอกไว้เลยว่า กินได้ แต่ของแบบนี้ต้องมีเทคนิคการกินกันหน่อย อย่างไรนั้น ตามมาเลยค่ะ
advertisement
![นับแคล](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/นับแคล.jpg)
1. ตั้งสตินับแคล
การนับจำนวนแคลอรี่ของอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวันนั้นสำคัญ ควบคุมไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินไป หากว่าวันนี้คุณต้องทานขนมของหวานให้ได้ ต้องลดอาหารในมื้ออื่นให้น้อยลงค่ะ หลักการคือคำนวนแคลอรี่ของอาหารที่ทานทั้งวัน ตามหลักสากลแนะนำให้ทานได้ไม่เกิน 2,000 แคลอรี่ต่อวัน แต่สำหรับสาวๆ ที่รักษาหุ่นนั้นควรทานได้ไม่เกิน 1,500-1,800 แคลต่อวันนะคะ
advertisement
![ทานของหวานคู่ธัญพืช](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/ทานของหวานคู่ธัญพืช.jpg)
2. ทานของหวานคู่ธัญพืช
ไฟเบอร์ในธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลจากของหวานนั้นได้ลดน้อยลง แถมยังเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้แก่ร่างกายด้วย อย่างเช่น เติมอัลมอนด์ลงในไอศครีม ผลไม้ในโยเกิร์ต เติมถั่วแดงในถ้วยของหวาน
[ads]
advertisement
![Low fat](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/Low-fat.jpg)
3. ของหวานประเภท low fat
เป็นอีกตัวเลือกทางที่ดีของคนชอบทานของหวาน เบเกอรี่ ขนมเค้ก และไม่ต้องกังวลในเรื่องของความอ้วนเลย เพราะใช้เป็นส่วนผสมที่เน้นไขมันน้อย เหมาะสำหรับคนชอบทานของหวานแต่กลัวอ้วนมาก สังเกตุได้ง่ายๆ จากวัตุดิบ ส่วนประกอบประเภท low fat ค่ะ ถ้าไม่มั่นใจก็ลองทำของหวานทานกันเองนะคะ
advertisement
![Collections_Low_fat_cake_4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/Collections_Low_fat_cake_4.jpg)
4. กำหนดเวลาทานของหวาน
เช่นทานได้สัปดาห์ละครั้ง เป็นการควบคุมการกินน้ำตาล พลังงานที่ได้รับ ไม่ให้เกินความต้องการเป็นเวลานานๆ และบ่อยครั้งจนเกินไป แถมทำให้ร่างกายเคยชินกับการทานของหวานในปริมาณไม่มากอีกด้วย
advertisement
![diet](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/กล้วย.jpg)
5. ทานกล้วยในตอนเช้า
ทานตอนเช้าพร้อมกับน้ำอุณภูมิห้อง 1 แก้วค่ะ กล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติ และเพราะรสหวานแบบธรรมชาตินี้แหละที่จะทำให้คุณลดความอยากของหวานในระหว่างวันได้ นอกจากนี้แล้วในกล้วยยังอุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหาร และยังวิตามินและแร่ธาตุนาๆชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
advertisement
![ชวนเพื่อนทานของหวาน](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/ชวนเพื่อนทานของหวาน.jpg)
6. ชวนเพื่อนทานของหวาน
เวลาเห็นของหวานอะไรๆ ก็อยากทานไปหมด และก็มักเผลอสั่งมาเยอะ ทานคนเดียวไม่หมด อาการเสียดายก็มักจะกดดันให้ทานเข้าไปอีก แย่เลยนะคะแบบนี้ ทางที่ดีเมื่อตั้งใจจะทานของหวาน ชวนเพื่อนไปแชร์กันค่ะ แบ่งๆ กันกินนิดๆ หน่อยๆพอให้หายอยาก แถมได้แชร์ค่าขนมกัน ประหยัดไปอีกแบบน๊า
[yengo]
advertisement
![ออกกำลังกาย](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2015/10/ออกกำลังกาย.jpg)
7. เพิ่มการออกกำลังกาย
เป็นธรรมดานะคะคุณสาวๆ ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทานเข้าไปเยอะก็ต้องเอาออกเยอะนะคะ ยิ่งของหวานน้ำตาลเยอะๆ ก็สะสมพลังงานเยอะเท่านั้นค่ะ ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นไขมันสะสมกับหุ่นของคุณ อ้วนแน่นอน!
คุณสาวๆ ค่ะ ของหวานทานได้น๊า คราวนี้ก็ไม่ต้องกังวลให้เสียสุขภาพจิตกันไป ทานได้แต่ต้องมีเทคนิคกันหน่อยนะ สิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพที่ดีของคุณนะคะสาวๆ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com