ใช้ “รถเกียร์ออโต้” อย่างไรให้ปลอดภัย? ประหยัดน้ำมันเท่าตัว
advertisement
ปัจจุบันนี้หลายคนหันมาใช้รถระบบเกียร์ออโต้กันมาก เนื่องจากขับง่าย ไม่สับซ้อน และการดูแลก็แค่เปลี่ยนถ่ายของเหลวน้ำมันหล่อลื่นตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น วันนี้ ไข่เจียว.com จึงได้นำเคล็บลับ และเทคนิคในการขับขี่รถยนต์ระบบเกียร์ออโต้ ที่ปลอดภัย แถมยังประหยัดเงินได้ด้วย จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยค่ะ
ตำแหน่งของเกียร์ที่ใช้ขับเคลื่อนรถ
ตำแหน่ง P ใช้สำหรับจอดรถในตำแหน่งที่ไม่กีดขวางรถคันอื่นหรือจอดในบริเวณที่ลาดชัน
ตำแหน่ง R ใช้ในการถอยหลัง เป็นตำแหน่งที่อันตรายมากที่สุด ให้เหยียบเบรกทุกครั้งที่เข้าเกียร์ เพื่อให้รถถอยหลังอย่างช้า ๆ
ตำแหน่ง N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้ในการหยุดรถชั่วคราวหรือจอดรถในตำแหน่งที่กีดขวางเส้นทางจราจร
ตำแหน่ง D ใช้ในการขับขี่เพื่อเดินหน้ารถตามปกติ
ตำแหน่ง D4 ใช้ในการขับรถเดินหน้าในสภาพการขับขี่ทั่วไป
ตำแหน่ง D3 ใช้สำหรับขับรถขึ้นหรือลงเนิน เพื่อป้องกันมิให้เกียร์เปลี่ยนกลับไป กลับมาบ่อยๆ[ads]
ตำแหน่ง D2 ใช้สำหรับการขับรถลงเขาเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเพิ่มกำลังเบรคมากขึ้น หรือการขับรถขึ้นเขา เพื่อเพิ่มกำลังขับเคลื่อน รวมทั้งการขับบนถนนลื่น และการขับขึ้นจากหล่มโคลนหรือทราย
ตำแหน่ง D1 ใช้สำหรับการขับรถขึ้น-ลงเขาที่สูงชันมากๆ
ตำแหน่ง L ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก และต้องใช้ความเร็วต่ำ
ข้อปฏิบัติในการขับ
– ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ควรตรวจสอบให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P และสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P เท่านั้น
– ในการขับรถลงทางลาดชัน ต้องใช้เกียร์ตำแหน่ง “D3” แต่กรณีที่ทางลงนั้นชันมาก ๆ ให้เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง “2” เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ในขณะเดียวกันคุณควรเหยียบเบรกไปด้วย หรืออาจใช้เบรกมือ เพื่อช่วยในการหยุดรถที่ดียิ่งขึ้น
– ห้ามใช้เกียร์ “N” หรือ “D4” ในการขับรถลงทางชันมากๆ เพราะกำลังเครื่องยนต์ไม่พอ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
– การจอดรถแล้วไม่ดับเครื่องยนต์ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น จอดรถเพื่อไปลงเปิดประตูบ้านหรือไปซื้อของริมถนน ควรใช้ตำแหน่ง P และใส่เบรคมือทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้รถพุ่งไปข้างหน้า
– หากต้องการเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่งอื่น ต้องทำในขณะที่รถยนต์จอดสนิท และควรเหยียบเบรกป้องกันกันรถเคลื่อน[ads]
– หากหยุดแค่ 2-3 นาที ก็ควรอยู่ที่ตำแหน่ง D โดยแตะเบรกแทน แต่หากหยุดนานเกินกว่านี้ค่อยเปลี่ยนเป็น N และต้องการป้องกันรถไหลก็ใส่เบรคเบรกมือด้วย
– เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 6 เดือนหรือปีละ 2 ครั้ง จะช่วยยืดอายุการทำงานของระบบเกียร์ได้
– ไม่ขับลากเกียร์
– ไม่กดคันเร่งจนสุดเพื่อคิกดาวน์บ่อยๆ
– อย่าใส่เกียร์ว่างขณะวิ่ง
– เชนเกียร์บ่อยไปไม่ดี
– เหยียบเบรกทุกครั้งที่เปลี่ยนจากเกียร์ D ไปเกียร์ R
หากทำตามเทคนิคเหล่านี้ การขับขี่รถของคุณก็จะปลอดภัย และยังช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้ใช้ได้นานขึ้นอีก แถมยังประหยัดเงินค่าซ่อมไปได้อีกด้วย อะไรจะดีขนาดนี้ ลองทำตามกันเลยนะค่ะ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com