ทำอย่างไร เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ลิฟต์ค้าง
advertisement
สถานการณ์ลิฟต์ค้าง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดกันได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้งานลิฟต์กันอย่างมาก ไม่ว่าจะอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ดังนั้นคุณก็มีโอกาสเสี่ยงต้องเผชิญสถานการณ์ลิฟต์ค้าง หรือที่แย่กว่านั้นก็คือลิฟต์ตกกันได้ Kaijeaw.com มีข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น มาฝากกันค่ะ
advertisement
[ads]
ข้อควรปฏิบัติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ลิฟต์ค้าง
1. เมื่อลิฟต์ค้าง อย่าตกใจจนเกินเหตุ ควรตั้งสติให้ดี เพราะจะไม่มีอันตรายใดๆ โดยเฉพาะระบบระบายอากาศที่เพียงพอ เนื่องจากจะมีการไหลเวียนของอากาศในบ่อลิฟต์กับห้องลิฟต์อยู่ตลอดเวลา
2. ในขณะที่ลิฟต์ค้าง ชุดไฟสำรองฉุกเฉินจะทำงานให้มีแสงสว่างเพียงพอ คุณต้องกดปุ่มสัญญาณ EMERGENCY CALL ที่แผงปุ่มกด เพื่อจะสามารถสื่อสารกับผู้ที่อยู่ด้านนอกได้
3. พยายามให้ข้อมูลแก่ผู้ที่กำลังให้การช่วยเหลืออย่างละเอียด
4. จากนั้นให้รอเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือคุณให้ออกจากลิฟต์อย่างสะดวกและปลอดภัย
5. อย่าพยายามงัดประตูลิฟต์โดยพลการอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้
6. ห้ามผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนติดลิฟต์กระทำการใดๆ เพราะการช่วยเหลือจำเป็นต้องทำตามหลักการและขั้นตอนที่ถูกต้อง
7. เจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือ จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางบริษัทฯ อบรมให้อย่างเคร่งครัด
advertisement
[yengo]
ข้อควรปฏิบัติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ลิฟต์ตก
1. "ให้กดปุ่มให้ลิฟต์จอดทุกชั้นอย่างเร็วที่สุด" เพื่อเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงาน มันจะหยุดลิฟต์จากการร่วงลงมา
2. "จับที่จับให้แน่น" หากว่ามี มันจะช่วยรองรับตำแหน่งและป้องกันจากการหล่นและการบาดเจ็บถ้าเราเสียสมดุลย์
3. "พิงหลังและศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง" การพิงผนังจะทำให้มันช่วยป้องกันหลังและกระดูก
4. "งอเข่า" เพราะเมื่อลิฟต์ตก เราจะไม่รู้เลยว่าลิฟท์จะกระแทกพื้นเมื่อใด ซึ่งนั่นอาจจะส่งผลให้กระดูกทั่วร่างแตกละเอียดได้ เกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็น การงอเข่าจะช่วยลดผลกระทบจากกระดูกแตกและแรงกระแทกของการร่วงหล่น
เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์คับขันเหล่านั้น พึงระลึกถึงข้อควรปฏิบัติเหล่านี้ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้คุณรอดจากเหตุการณ์นั้นอย่างปลอดภัย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "สติ" อย่าตกใจจนเกินเหตุค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com
ขอขอบคุณ : สมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย