ความงดงามอันทรงคุณค่า.. “วัดในเหรียญไทย” เรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม
advertisement
นอกจากที่ “เหรียญกษาปณ์” จะมีค่าในฐานะที่เป็นวัตถุแทนเงินตรา ก็ยังมีคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ตลอดจนการแสดงถึงความเป็นสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อีกด้วย
เริ่มแรกที่มีการใช้เหรียญกษาปณ์มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งต่อมาก็มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ น้ำหนัก ขนาด อัตราส่วนผสมของโลหะ และกรรมวิธีการผลิตเรื่อยมา จนกระทั่งในรัชกาลปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนออกมาใช้ในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา
เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดปัจจุบัน ประกอบด้วยชนิดราคา 10 บาท , 5 บาท , 2 บาท , 1 บาท , 50 สตางค์ , 25 สตางค์ , 10 สตางค์ , 5 สตางค์ และ 1สตางค์ (โดยชนิด 10 สตางค์ , 5 สตางค์ และ 1สตางค์ ไม่ได้นำออกมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่มีความจำเป็นต้องใช้ในเรื่องการคำนวณตัวเลขต่างๆ ในทางบัญชี โดยเฉพาะการคิดภาษีในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเศษสตางค์ได้)
ซึ่งลวดลายที่ปรากฏอยู่บนเหรียญนั้นจะเป็นลวดลายที่แสดงถึงสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ มีคำว่า ประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสถาบันชาติ และด้านหลังเป็นรูปวัดต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสถาบันศาสนา
โดยลวดลายวัดบนเหรียญกษาปณ์ชนิดต่างๆ มีดังนี้ (ขอขอบรูปภาพจากคุณ @RatiButr )
[ads]
เหรียญ 10 บาท เป็นรูป “พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม”
advertisement
เหรียญ 5 บาท เป็นรูป “พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม”
advertisement
เหรียญ 2 บาท เป็นรูป “พระบรมบรรพต วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร”
[ads]
advertisement
เหรียญ 1 บาท เป็นรูป “พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม”
advertisement
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : manager.co.th