10 เคล็ดลับ ..วิธีคลายความเหนื่อย ได้ด้วยตนเอง!!

advertisement
ด้วยหน้าที่การงานที่มากมายจนบีบรัดตัว และช่วงเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้หลาย ๆ คนต้องทำงานหนักและเกิดภาวะเครียดอยู่บ่อย ๆ เมื่อไม่ได้ดูแลตัวเองได้เท่าที่ควรแล้วนั้น ก็จะส่งผลต่อสุขภาพได้มากมายโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่จะสังเกตได้ว่าตนเองจะรู้สึกเครียดได้ง่ายๆ หงุดหงิด และรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ไม่รู้หาย บั่นทอนความสุขในชีวิตประจำวันกันจริงๆ เลย วันนี้ ไข่เจียว.com จึงมีเคล็ดลับคลายความเครียดและความเหนื่อยล้า มาฝากกันค่ะ จะได้นำไปใช้เพื่อขจัดความเหนื่อยล้าได้เองอย่างง่าย ๆ
advertisement

http://2.bp.blogspot.com/-dB4Nbhq9Sys/VS88AM6cv4I/AAAAAAAABGY/o_5HtQi6K-o/s1600/pic1.jpg
1) ฝึกสมาธิ หายใจลึก ๆ ใช้สมาธิจดจ่อกับลมหายใจเข้า – ออก ติดต่อสักประมาณ 2 นาที จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากอารมณ์เหน็ดเหนื่อย วิตกกังวล เศร้าใจ เสียใจ หรือโกรธ ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งมีผลให้จิตใจของคุณสงบ สบายขึ้น
advertisement

http://static.naewna.com/uploads/userfiles/images/Image(48).jpg
2) การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากจะช่วยลดความเหนื่อยล้าได้แล้ว ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่งอีกด้วย ดังนั้นควรเข้านอนให้เร็วขึ้น ก่อน 22.00 น. และตื่นให้ตรงเวลาทุกวัน และควรพักผ่อนให้ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง
[ads]
advertisement

http://www.bloggang.com/data/singlenurse/picture/1386092376.jpg
3) กินอาหารให้ตรงเวลา อย่าปล่อยให้เกิดอาการหิวหลายชั่วโมง เพราะจะไม่มีอาหารไปเลี้ยงสมอง ทำให้คิดงานไม่ออก นอกจากอาหาร 3 มื้อแล้ว อาจเพิ่มอาหารมื้อย่อยที่เรียกว่ามื้อว่าง เน้นทานจำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืชจำพวกถั่ว
advertisement

http://www.thaihealth.or.th/data/content/27505/cms/thaihealth_c_bcegluvxz678.jpg
4) กินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทานอาหารได้เพียงพอ ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนของร่างกายและสมอง รวมถึงแน่ใจได้ว่าคุณดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ
advertisement

http://www.livewell.in.th/wp-content/uploads/2014/07/%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg
5) ดื่มกาแฟ กาแฟช่วยให้สมองตื่นตัว รู้สึกกระชับกระเฉงขึ้น แต่ควรระวังไม่ดื่มเกินวันละ 1 – 2 แก้ว และหยุดดื่มก่อนเวลานอนอย่างน้อย 6 ชม. เพราะจะทำให้นอนไม่หลับได้
advertisement

http://static.lahamag.com/attachments/44/1429251961.659916.original.jpg
6) รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไป ควรลดน้ำหนักส่วนเกิน เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย
advertisement

http://www.tristarhealthcare.net/homepage/images/stories/img_health/aa3.jpg
7) ออกกำลังกายให้มากขึ้น และทำอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสร้างสารเอ็นดอร์ฟินขึ้นมาในสมองโดยอัตโนมัติ ซึ่งสารนี้จะเป็นสารที่ให้ความรู้สึกเป็นสุข ช่วยคลายความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้ชะงัด และยังช่วยให้กล้ามเนื้อใช้พลังงานที่ร่างกายเผาผลาญมาอย่างมีประสิทธิภาพ และร่างกายแข็งแรงขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
[yengo]

http://www.bangkokvoice.com/wp-content/uploads/2013/11/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84-2.jpg
8) ไปตรวจสุขภาพ อาการไม่สบายเจ็บไข้ได้ป่วยต่าง ๆ เพราะอาการอย่างเช่น เบื่ออาหาร มึนงง หัวหมุนติ้ว ปวดเมื่อยเนื้อตัว จำอะไรไม่ค่อยได้ หรือซึมเศร้า บางทีอาจมาจากโรคที่ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ ได้ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษา
advertisement

http://clinicherbs.ruixinxin.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2015/12/vitamins-600×398.jpg
9) เสริมวิตามินที่จำเป็นนอกจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันในปริมาณที่สมดุลแล้ว ยังจำเป็นต้องกินอาหารที่มีวิตามิน และเกลือแร่ที่เพียงพอด้วย ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีกำลังวังชาไม่เหนื่อยเพลียง่าย ๆ

http://men.mthai.com/work/wp-content/uploads/2015/10/iStock_000064945321_Small.jpg
10) อยู่กับปัจจุบันให้ได้ อย่าปล่อยให้ชีวิตอยู่กับอดีต จดจำเรื่องราวที่ผ่านมาและครุ่นคิดแต่อยากกลับไปทำให้ดีกว่าเดิม มันไม่มีประโยชน์อะไร แค่ฟังและนึกถึงอดีตก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว ทางที่ดีคือทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ความเหนื่อยล้าของร่างกายอาจมีผลเชื่อมโยงกับจิตใจเป็นหลัก ประเด็นสำคัญอยากให้คุณมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ฝึกเป็นคนคิดบวก อย่าย่อท้อกับปัญหาที่ผ่านเข้ามา สู้และทำให้ดีที่สุด อย่าลืมว่าไม่เครียดนะคะ หาวิธีการจัดการกับความเครียด ทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุข เริ่มต้นง่าย ๆ จากการยิ้มและหัวเราะให้กับตนเองและคนรอบข้างเป็นประจำ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com