อุกกาบาตสามลูกนี้อาจพุ่งชนโลกและกวาดล้างทุกสิ่งมีชีวิต
advertisement
ลืมการทำนายของพวกดูมมองเกอร์(doommongers) ที่ว่าอุกกาบาตยาว 2.5 ไมล์จะพุ่งชนโลกในเดือนกันยายนที่แม้แต่ NASA ก็ยังไม่รู้ไปได้เลย เพราะนี่คือหินอวกาศ 3 ลูกตัวจริงที่นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่า อาจสามารถพุ่งชนแล้วสร้างการทำลายล้างหมดทั้งโลกได้
อุกกาบาตยักษ์สองลูกอาจพุ่งชนดาวเคราะห์ของเราในรุ่นหลานเหลนของเรา นาซาและองค์กรอวกาศยุโรปเห็นสรุปตรงกัน
[ads]
หินคอสมิคอวกาศเหล่านี้อยู่ในรายชื่ออุกกาบาตที่มีแนวโน้มก่อเกิดอันตรายสูง (potentially-hazardous asteroids) หรือ PHA ของนาซ่าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะชนดาวเราจริง
เรื่องสยองขวัญเหล่านี้ถูกผสมปนเปในอินเตอร์เน็ตด้วยการปรากฏบนนวนิยายอย่าง เรื่อง killer asteroid about to strike Puerto Rico ที่เล่าไว้ว่าอุกกาบาตจะพุ่งชนเปอโตริโก้ในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้นมันจึงไม่มีความน่าสนใจมากเกี่ยวกับหินอวกาศจะชนโลกจริง
นาซ่ายืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดน่ากลัวเหล่านี้ เพราะว่าถ้าหินอุกกาบาตยักษ์จะชนโลกเราจริง มันก็จะอยู่ในการตรวจจับด้วยเรดาร์ของเราเรียบร้อยแล้ว
องค์กรตัวแทนอวกาศสหรัฐ กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณว่าอุกกาบาตจะพุ่งชนโลกเราชัดเจนจริงในรอบหลายร้อยปี
การสืบเสาะของเราพบว่า มักมีการกล่าวอ้างถึงอุกกาบาตที่ชื่อว่า 1950 AD หินขนาดใหญ่ที่เกรงกลัวกันว่าอาจจะชนโลกในปี 2880
advertisement
แต่เราพบอุกกาบาตยักษ์ที่นาซ่าตรวจสอบเจออีกสองลูกนอกเหนือจากนั้นเพราะมันมีแนวโน้มที่จะพุ่งชนก่อนในปี 2175 และ 2185 ตามลำดับ เมื่อรุ่นเหลนโหลนของคุณผู้อ่านยังมีชีวิตอยู่
ที่น่าสนใจที่สุดในอุกกาบาตที่อาจพุ่งชนเหล่านี้ตามรายชื่อใน PHA ของนาซ่าหนึ่งในนั้นก็คือ 2009 FD มีการประมาณการว่าเป็นอุกกาบาตยาวครึ่งกิโลเมตร
ถ้ามันพุ่งชนลงที่มหาสมุทร ก็จะเกิดคลื่นซึนามิทำลายล้าง และแหล่งที่อยู่อาศัยในหลายๆ เมืองใหญ่ก็จะถูกกวาด และมีแนวโน้มว่าอาจกวาดไปทั้งทวีปหรือแย่กว่านั้น
แต่องค์กรอวกาศนาซ่าซึ่งค้นพบ 2009 FD เมื่อหกปีก่อน ก็บอกว่าลูกนี้มีโอกาส 1 ใน 345 ที่จะพุ่งชนระหว่างปี 2185 – 2196 ซึ่งเท่ากับอัตราการกำเนิดเด็กที่โอกาสจะเป็นโรค Down's Syndrome
Joe Bauwens ผู้สร้างบล็อคอย่าง Sciency Thoughts เขียนไว้ว่า “วัตถุยักษ์นี้อาจพุ่งตรงผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ชนลงที่พื้นดินโดยตรง และสร้างผลกระทบคือ การระเบิดเท่ากับ 17,650 เท่าของระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิม่า สร้างหลุมอุกกาบาตกว้างกว่า 7 กิโลเมตร และเกิดสภาวะปกคลุมบรรยากาศไปนานเป็นสิบๆ ปี
เร็วที่สุดที่เราอาจถูกอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนคือปี 2175 โดยลูกที่ใหญ่กว่า ชื่อ 1999 RQ36
advertisement
advertisement
หินลูกนี้อาจพุ่งชนเราในช่วงปี 2175 ถึง 2199 ในโอกาสความเป็นไปได้ 1 ใน 2700 นาซ่าเป็นกังวลมาก มีแผนเร็วสุดปีหน้า ที่จะส่งอุปกรณ์ไร้คนขับขึ้นสู่อวกาศเพื่อทำการทดลองทำให้เรารู้ว่าอะไรจะพุ่งมาหาเรา การทดลองอาจได้ผลในปี 2019 และกลับมาพร้อมตัวอย่างในปี 2023 วันเวลาที่เชื่อว่าน่าจะมีการพุ่งชนคือ 24 กันยายน ปี 2182
นักเขียนวิทยาศาสตร์ Nicholas Deleon กล่าวว่า “1999 RQ36 นั้นใหญ่มาก วัดเทียบให้เห็นภาพที่ดีที่สุดคือประมาณ สนามฟุตบอล NFL ถึง 5 สนาม อะไรบางอย่างที่ใหญ่ขนาดนั้น พุ่งชนเข้ากับโลกด้วยความเร็วประมาณหนึ่ง – ซึ่งอาจเป็นอัตราความเร็วที่สูงมาก อาจทำให้เกิดการทำลายล้างในสเกลที่กว้างมาก ซึ่งอาจเป็นการสูญสิ้นครั้งใหญ่”
advertisement
อุกกาบาตลูกถัดมา ลูกที่มีพลานุภาพทำลายล้างสูงสุดในสามลูก ชื่อ 1950 DA ซึ่งเราพบเมื่อ 65 ปีที่แล้ว
ขนาดเกือบๆ 1 ไมล์ คือ 1.3 กม. การพุ่งชนจากสิ่งนี้อาจเปลี่ยนเกมแบบโละกระดาน มากกว่าจะส่งผลแค่ระดับทวีป แต่อาจสร้างให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกรอบเลยก็ว่าได้
advertisement
advertisement
โชคดีที่นาซ่าได้ทำการคำนวณแล้วว่ามีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดี่ยวคือในปี 2880 ซึ่งยังอีกยาวไกล และโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดคือ 1 ใน 20,000
องค์กรอวกาศสหรัฐสอดส่องดูการโคจรของอุกกาบาตทุกลูกที่เข้ามาในรัศมี 1 ล้านไมล์ใกล้โลก แต่นาซ่าก็เฝ้าระวังกลุ่มเฉพาะยิ่งกว่าคือ 500 PHAs (รายนามอุกกาบาต 500 ลูก ที่มีแนวโน้มมากที่สุด) มีการให้คะแนนความเป็นไปได้ตั้งแต่ 0 คือเป็นไปได้น้อยที่สุด จนถึง 10 คือลาก่อน
อย่างไรก็ตามไม่มีลูกใดในรายชื่อนี้มีคะแนนมากกว่า 0 แต่ที่น่าสนใจก็คือ ยังไม่มีการให้คะแนนสามอุกกาบาตยักษ์นี้ เนื่องจากการเกิดขึ้นยังห่างไกลเป็นศตวรรษ
สามลูกนี้นี่ของจริง ไม่เหมือนข่าวลือล่าสุดว่า อุกกาบาตขนาด 2.5 ไมล์จะชนเราในวันที่ 28 กันยายน
แต่จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีใครคิดค้นพัฒนาวิธีเปลี่ยนวิถีของอุกกาบาต
เทคโนโลยีล่าสุดที่เรียก "knocking them off course" ก็ยังคงเป็นแค่ทฤษฎีที่ยังทำการทดลองอีกนานหลายปี
นาซ่าแนะว่า มีความจำเป็นที่จะต้องกระทำการเปลี่ยนแปลงวิถีโคจรประมาณ100 ปี ก่อนวันเวลาพุ่งชนจริง เพื่อความเป็นไปได้ในความสำเร็จสูงสุด เช่น ในกรณีของ 1999 RQ36 ก็คืออีก 60 ปี
นาซ่ายังคงสอดส่องอุกกาบาตได้เพียง 13,000 ลูกในระบบสุริยะ ซึ่งน้อยมากคิดเป็น 2% ของจำนวนที่ประมาณการไว้ทั้งหมด เป็นไปได้ว่าอาจมียักษ์ใหญ่กว่ารอมาเยือนอยู่
[yengo]
ในส่วนของ 1950 DA ในเว็บไซต์นาซ่าบอกไว้ว่า “มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะพุ่งมายังโลก ในวันที่ 16 มีนาคม 2880 ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นเราถึงจะเห็นว่ามาจริง !!!
อ้างอิงจาก : www.express.co.uk ที่มา : kaijeaw.com