เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ให้พอดี และถูกต้อง!!

advertisement
รถยนต์อาศัยการขับเคลื่อนของล้อทั้ง 4 ล้อ คนมีรถจึงให้ความใส่ใจล้อรถยนต์ว่าสมควรที่จะเปลี่ยนใหม่ หรือสลับในช่วงใดซึ่งศึกษาได้จากคู่มือการใช้รถหรือผู้รู้ในเรื่องนี้ ซึ่งการซ่อมบำรุงอุปกรณ์หรือเครื่องยนต์ของรถยนต์จะมีระยะเวลาในการเอาเข้าศูนย์ในการเข้าไปเช็คอยู่แล้ว และเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเติมยางลมลมรถ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่ารถของเราสามรถเติมลมได้เท่าไหร่ kaijeaw.com มีวิธีในการเติมลมรถมาฝากค่ะ
advertisement
ลมยางทำหน้าที่อะไร
ลมยางรถยนต์นั้นมีประโยชน์มากมายถ้าหากใช้อย่างถูกต้อง ทั้งช่วยประหยัดน้ำมันช่วยรับน้ำหนักบรรทุกของรถคุณ อีกทั้งยังช่วยให้ ประสิทธิภาพในการขับขี่ดีอีกด้วย จึงเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุให้น้อยลงการเติมลมยางน้อยกว่าความเหมาะสมนั้น มีผลทำให้อายุยาง ลดลงบริเวณไหล่ยางจะสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น เกิดความร้อนสูงบริเวณไหล่ยางทำให้เนื้อยางไหม้ และโครงสร้างยางแยกตัวออกจาก กันส่งผลให้ยางบวมล่อนและระเบิด นอกจากนั้น อาจทำให้โครงยางบริเวณแก้มยางฉีกขาด หรือหักได้ รวมไปถึงการสิ้นเปลืองน้ำมัน อีกด้วย
ส่วนการเติมลมยางที่มากเกินไปนั้น ก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะอาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่ายเนื่องจากพื้นที่การยึดเกาะถนนลดลง โครงยางระเบิดได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก หรือถูกตำเนื่องจากโครงยางเบ่งตัวเต็มที่เกิดการยืดหยุ่นตัวได้น้อยอายุยางก็จะลดน้อยลง เนื่องจากดอกยางจะสึกบริเวณ ตอนกลางมากกว่าส่วนอื่นและทำให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง ดังนั้น เราจึงควรหันมาใส่ใจ และให้ ความสำคัญกับลมยางให้มากขึ้น โดยสามารถสอบถามข้อมูลและข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับลมยางได้จากบริษัทผู้ผลิตยางนั้นๆ
advertisement
การเติมลมยางรถยนต์
ในรถทุกคันจะมีป้ายสติ๊กเกอร์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแรงดันลมยางแปะเอาไว้บริเวณด้านในของประตูฝั่งคนขับ ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเติมเท่าไรดี ก็ให้ดูตัวเลขแรงดันลมยางจากตรงนั้นได้เลย
ถ้าหาสติ๊กเกอร์ที่บอกไม่เจอ ก็เปิดหาในคู่มือประจำรถก็ได้ หรือไม่ก็สอบถามจากร้านที่ให้บริการเปลี่ยนยางรถยนต์ดูก็ได้ ถ้าดูจากสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ที่รถ ให้สังเกตให้ดี ตัวเลขแรงดันลมยางที่แนะนำไว้นั้นส่วนใหญ่แล้วค่าแรงดันของล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังจะต่างกัน และตัวเลขแรงดันจะแปรผันไปตามจำนวนผู้โดยสารในรถด้วย ให้อ้างอิงจากจำนวนผู้โดยสารที่ต้องเดินทางหรือนั่งในรถเป็นประจำเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็น่าจะนั่งกันประมาณ 1-3 คน แต่ถ้ามีครั้งไหนที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วต้องกันไปหลายคน ควรเช็คแรงดันลมยางก่อนและเติมด้วยแรงดันที่เหมาะสมกับจำนวนคนที่จะนั่งไปด้วยกัน ถ้าไปกันหลายคนก็ควรจะเพิ่มแรงดันจากเดิมที่เคยเติมอยู่
advertisement
ตัวเลขแรงดันลมยางมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ รถแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันไปส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 33 psi – 35 psi ความแตกต่างขึ้นอยู่กับน้ำหนักของตัวรถและขนาดของยาง รวมถึงจำนวนผู้โดยสารด้วย ส่วนตัวผมเองเอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ยึดตัวเลขที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำสักเท่าไร อาศัยความเคยชิน เวลาเติมเองก็อ้างอิงตัวเลขแรงดันที่ประมาณ 32 psi ไว้ก่อน แล้วก็ค่อยๆ ลองปรับ ลองลดลองเพิ่มดู ถ้าไม่ได้บรรทุกหนักจนเกินไป ผู้โดยสารที่นั่งไปด้วยกันวันๆ หนึ่งมีบ้างไม่มีบ้าง ส่วนใหญ่นั่งคนเดียว อย่างมากก็สองคน แรงดันลมยางประมาณ 32-33 psi ก็เพียงที่จะขับใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
การเติมลมยางที่ถูกต้องนั้นทำได้อย่างไร
ลมยางจัดว่าเป็นหัวใจสำคัญของยางรถยนต์ เพราะถ้าไม่มีลมยาง ยางรถยนต์ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งการเติมลมยาง และวิธีการดูแลลมยาง มีดังนี้
1. ตรวจเช็คลมยางเป็นประจำและปรับแต่งให้ถูกต้องตามคำแนะนำในคู่มือประจำรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง ในขณะที่ยางยังเย็นอยู่
2. ถ้าเป็นยางใหม่ ในช่วง 3,000 กิโลเมตรแรกควรเพิ่มความถี่ในการตรวจเช็คลมยางให้มากกว่าปกติ เพราะโครงยางใหม่ จะมีการขยายตัวเพื่อปรับสภาพ ทำให้ความดันลมยางลดลงจากปกติได้
3. ห้ามปล่อยลมยางออกเมื่อความดันลมยางสูงขึ้นเนื่องจากความร้อนจากการใช้งาน เพราะเมื่อยางเย็นตัวลง ความดันลมยาง ก็จะกลับสู่สภาวะปกติเอง
4. ควรเปลี่ยนวาล์วและแกนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์ว
5. ตรวจเช็คและเติมลมยางอะไหล่ทุกๆ เดือน
6. ในกรณีขับรถด้วยความเร็วสูง ให้เติมลมยางให้มากกว่าปกติ 3 ถึง 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อลดการบิดตัวของโครงยาง
advertisement
การเติมลมไนโตรเจน
ในปัจจุบันได้มีการนำก๊าซไนโตรเจนมาใช้เติมยางรถยนต์แทนอากาศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ด้วยคุณสมบัติของก๊าซไนโตรเจนที่เป็นก๊าซที่มี ขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า และมีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าก๊าซออกซิเจน เมื่อใช้เติมเข้าไปในยางรถยนต์แทนอากาศปกติ จะมีข้อดีดังนี้
– การซึมออกของลมยางลดลง จึงไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ
– ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของโครงยางและกระทะล้อ
– คงความนุ่มนวลของยางแม้วิ่งระยะทางไกล เนื่องจากการขยายตัวของก๊าซไนโตรเจนมีต่ำ
อย่างไรก็ตาม แม้การเติมลมยางด้วยก๊าซไนโตรเจนจะช่วยให้ไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ แต่ขอแนะนำให้ตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจในระหว่างการใช้งาน
ความดันลมยางสำหรับรถเก๋งและรถกระบะ
รถเก๋งความดันสูงสุดไม่ควรเกิน 36 ปอนด์/ตารางนิ้ว ซึ่งทั้งนี้อยู่กับขนาดและประเภทของรถนั้นๆด้วย เช่น
– รถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25 – 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)
– รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30 – 35 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)
– รถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)
การเติมลมยางรถยนต์ ผู้ขับขี่ควรศึกษาจากคู่มือรถยนต์ของตนเองว่าสามารถเติมได้เท่าไหร่ เพราะการเติมลมยางแข็งเกินไปหรืออ่อนเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถไม่ดีและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ปัจจุบันมีการบริการเติมลมยางตามปั้มทั่วไป ซึ่งหลายๆคนก็ใช้บริการเติมลมจากปั้ม แต่สำหรับหญิงสาวหลายๆคนอาจจะยังเติมไม่เป็นหรือไม่ถนัดในเรื่องรถยนต์ ฉะนั้นจึงควรขอความร่วมมือจากคนที่เติมเป็นหรือเอาเข้าร้านหรือศูนย์ที่เติมลมยางได้เลยค่ะ
เรียบเรียงโดย:Kaijeaw.com