เปิด 3 หลักเกณฑ์กรณีนักเรียนฉีดวัคซีน แล้วเกิดผลข้างเคียง
advertisement
จากกรณี รัฐบาลมีนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เด็กนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยเป้าหมาย 5,048,000 รายทั่วประเทศ เริ่มต้นฉีดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นวันแรก โดยเป็นวัคซีนชนิด mRNA ผลิตโดย บริษัท ไฟเซอร์ ร่วมกับ บริษัท ไบโอเอ็นเทค
advertisement
โดยทางเพจ ไทยรู้สู้โควิด ได้ออกมาโพสต์ถึง 3 กรณีการเกิดผลข้างเคียง และหลักเกณฑ์ที่สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
3 กรณี เกิดผลข้างเคียงนักเรียนหลังฉีดวัคซีนโควิด ยื่นเรื่องรับเงินช่วยเหลือ
1. ต้องรักษาอาการป่วยต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท
2. สูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท
3. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท
advertisement
ทั้งนี้ หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่สำนักงาน สปสช.สาขาเขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต
advertisement
โดยมีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย สอบถามรายละเอียด สายด่วน สปสช. 1330 ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
advertisement
สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 ดาวน์โหลดแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที> https://www.nhso.go.th/…/841/001/nhso_VaccinCovid19.pdf
ขอขอบคุณที่มาจาก : ไทยรู้สู้โควิด